นายบุญธรรม บูรณธรรมานันท์ อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย เสียชีวิตขณะซ้อมบอลในสนาม กระทรวงสาธารณสุข ประสาน 1669 ช่วยไม่ทัน ด้าน รองเลขา สพฉ. แจง เมื่อได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่เร่งประสานขอรถพยาบาลทันที วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 มีรายงานว่า นายบุญธรรม บูรณธรรมานันท์ หรือ "โก๋" อดีตกองหลังทีมชาติไทยและสโมสรองค์การโทรศัพท์ ได้ซ้อมฟุตบอลอยู่ที่สนามกีฬาภายในกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งอยู่บริเวณตรงข้ามกับอาคารสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ที่ดูแลระบบสายด่วนการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 โดยต่อมานายบุญธรรม ได้เกิดหัวใจวายและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.00 น. นายบุญธรรม ได้
หมดสติระหว่างเล่นฟุตบอล โดยสนามฟุตบอลดังกล่าวนั้น นายบุญธรรมมักจะมาเล่นอยู่เป็นประจำทุกเย็น ซึ่งขณะเกิดเหตุ นายบุญธรรมมีอาการเหนื่อยและได้มานั่งพักที่ข้างสนาม แต่จู่ ๆ ก็วูบและหมดสติ โดยผู้เห็นเหตุการณ์ต่างรีบเข้ามาให้การช่วยเหลือเบื้องต้น โดยมีการปั๊มหัวใจและไปติดต่อที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในสนามก็ช่วยวิทยุประสานขอความช่วยเหลืออีกทาง
อย่างไรก็ดี มีผู้โทร. ไปยังสายด่วน 1669 มีการทำรายละเอียดและขอเบอร์ผู้ติดต่อ จนเวลาผ่านไป 15-20 นาที ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่มารับ จนพลเมืองดีต้องนำตัว
นายบุญธรรมขึ้นรถกระบะและพาไปสถาบันบำราศนราดูรแทน ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตร แต่ไม่สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้ทัน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
โดยผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ทุกคนเสียใจมาก ไม่เข้าใจว่าเกิดจากอะไร ทั้งการติดต่อสื่อสาร ก็คิดว่าหากไม่มัวรอความช่วยเหลือจากแพทย์ฉุกเฉิน และรีบพาไปส่งโรงพยาบาลที่อยู่ห่างออกไปแค่ไม่เกิน 2 กิโลเมตรก็น่าจะดีกว่า แต่ก็ไม่อยากโทษใคร คงต้องรอให้มีการปรับปรุงระบบต่อไป ยิ่งเป็นพื้นที่ในกระทรวงสาธารณสุขอีกด้วย
ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก Wanlaya Yamchomchuen ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ในวันนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2560) ได้มีกำหนดการรดน้ำศพ ที่วัดแคนางเลิ้ง สะพานขาว ศาลา 9 เวลา 16.30-17.00 น.
เวลาต่อมา นพ.ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้ออกมาระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสืบหาข้อเท็จจริง ทั้งนี้เบื้องต้นทราบว่าเพื่อนผู้ป่วยวิ่งมาแจ้งที่ สพฉ. ว่า ผู้ป่วยมีอาการชัก ในเวลาประมาณ 17.30 น. จากนั้นเจ้าหน้าที่ศูนย์สั่งการได้แจ้งไปยังศูนย์สั่งการ 1669 จ.นนทบุรี ในทันที
นพ.ภูมินทร์ ระบุอีกว่า
ศูนย์สั่งการ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุแล้ว และกำลังเดินทาง ด้านเจ้าหน้าที่ สพฉ. เองก็กำลังออกจากตึกไปให้การช่วยเหลือ แต่เป็นจังหวะเดียวกับตอนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้แจ้งทางวิทยุสื่อสารว่ามีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาลด้วยตนเองแล้ว เมื่อตรวจสอบข้อมูลกับโรงพยาบาลบำราศนราดูร พบว่าผู้ป่วยไปถึงโรงพยาบาลในเวลาประมาณ 17.30 น. ซึ่งเป็นเวลาไล่เลี่ยกับที่เพื่อนของผู้ป่วยมาแจ้งที่ สพฉ.
สำหรับระบบที่ สพฉ. วางไว้จะมีการบันทึกเวลาชัดเจนในทุกขั้นตอน โดยนับจากการรับแจ้งในเวลา 17.23 น. และแจ้งไปยังโรงพยาบาลบำราศนราดูร ในเวลา 17.24 น. รถออกจากโรงพยาบาลในเวลา 17.27 น. และรถโรงพยาบาลได้ถึงจุดเกิดเหตุในเวลา 17.30 น. ซึ่งคาดว่าน่าจะสวนทางกับรถของญาติที่นำส่งผู้ป่วย ทั้งนี้ระยะเวลาที่รถพยาบาลถึงจุดเกิดเหตุถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าทันทีที่ระบบรับทราบเหตุ สามารถทำการช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม นพ.ภูมินทร์ ระบุว่า
ปัญหาที่ยังไม่ชัดเจนคือ เวลาเกิดเหตุ และเวลาที่โทร. แจ้งศูนย์ เป็นเวลาเท่าใดกันแน่ เพราะเวลาที่ถูกบันทึกคือ 17.23 น. หากเพื่อนผู้ป่วยโทร. ก่อนหน้านั้น คงต้องหาสาเหตุเพิ่มเติมว่ามีความผิดพลาดอย่างไร ทั้งนี้ยืนยันว่า สพฉ. จะพยายามสอบข้อเท็จจริงเพื่อพัฒนาระบบต่อไป
