ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อควรรู้และควรระวังในการใช้ว่านชักมดลูก  (อ่าน 461 ครั้ง)

ออฟไลน์ teareborn

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 272
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์

 
ข้อควรรู้และควรระวังในการใช้ว่านชักมดลูก
            ตามภูมิปัญญาของไทยเกี่ยวกับการใช้สมุนไพรที่มีมาตั้งแต่ในอดีตนั้น หมอยาพื้นบ้านหรือหมอยาสมุนไพรพื้นเมืองในแต่ละถิ่นแต่ละชุมชนนั้น ล้วนแล้วแต่จะมีข้อจำกัดหรือข้อกำหนดในการใช้สมุนไพรคุณสมบัติต่างๆเสมอ เนื่องมาจากว่าในการใช้ตัวยาสมุนไพรประเภทต่างๆนั้น ล้วนจะมีผลกระทบกับสุขภาพของผู้ใช้แตกต่างกันออกไป กล่าวคือ เมื่อมีการใช้ยาสมุนไพรในการบำบัดเยียวยาโรคแล้วใช้ว่าจะมีอาการที่พึงประสงค์ในทุกๆรายไป นั่นก็เพราะว่ามีข้อจำกัดเกี่ยวกับปัจจัยหลายๆด้าน เช่นว่า สุขภาพของผู้ใช้สมุนไพรในตอนนั้นเป็นปกติหรือไม่ หรือเมื่อใช้สมุนไพรไปแล้วได้ใช้ตามขนาดหรือเวลาที่ได้แนะนำหรือไม่ รวมถึงได้กินของแสดงที่มีฤทธิ์ไปกดตัวยาสมุนไพรที่ใช้หรือเปล่า เหล่านี้คือข้อจำกัดในการใช้สมุนไพรซึ่งมีมาตั้งแต่อดีตและในปัจจุบันนี้ก็ยังมีอยู่ ในบทความนี้จึงจะขอนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับข้อควรรู้และข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรว่านชักมดลูก ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วว่านชักมดลูกนี้ก็นับว่าเป็นสมุนไพรไทยที่คนไทยใช้กันมาเนิ่นนานแล้ว เป็นภูมิปัญญาของไทยที่สืบต่อกันมารุ่นสู่รุ่นจนมาถึงปัจจุบัน เพียงแต่ในปัจจุบันนี้ได้มีการแปรรูปว่านชักมดลูกไปทำสมุนไพรในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น และยังสะดวกในการบริโภครวมถึงทำให้เป็นสากลเหมือนกับยาแผนปัจจุบันอีกด้วย ส่วนข้อควรรู้และข้อควรระวังในว่านชักมดลูกมีดังนี้ ในตำรายาพื้นบ้านได้ระบุว่า 1.ในการต้มยาว่านชักมดลูกนั้นต้องต้มให้ฟองยุบลงจึงจะอาจนำมาใช้ได้โดยหากฟองยังไม่ยุบไม่ควรนำมาใช้อาจทำให้เกิดอาการเบื่อเมา  2.การใช้ว่านชักมดลูกเข้าอู่นั้นสตรีหลังคลอดควรรอให้มีน้ำนมก่อนจึงจะอาจใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้ผล 3.ในการที่จะนำว่านชักมดลูกมาใช้นั้น ควรเก็บว่านชักมดลูกในฤดูแล้ง(ประมาณ พฤศจิกายน - มีนาคม) โดยหากเก็บหลังจากฝนตกแล้วประโยชน์ของว่านชักมดลูกจะน้อยลง เพราะตัวยาในหัวและแขนงของว่านชักมดลูกจะสะสมได้สูงสุดในช่วงหน้าแล้งหากเลยไปถึงหน้าฝนตาของแขนงจะงอกออกมาเป็นต้นใหม่ทำให้ตัวยาในหัวและแขนงว่านชักมดลูกน้อยลง  4.เมื่อสตรีที่มีร่ายกายไม่ค่อยแข็งแรงใช้ว่านชักมดลูกนั้น อาจมีอาการปวดศีรษะ ตัวร้อน มีไข้ จึงควรหยุดกินสักพักหากหายไข้แล้วอาจรับประทานต่อได้โดยลดตัวยาลงด้วย  5.ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนหลังจากใช้ว่านชักมดลูกแล้วอาจมีประจำเดือนเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ต้องตกใจเพราะมันจะค่อยๆหายไปเอง โดยสามารถใช้ว่านชักมดลูกได้ตามปกติ  6.หากใช้ว่านชักมดลูกแล้วควรงดของที่คาวและมัน เพราะอาจทำให้ตัวยามีฤทธิ์อ่อนลงได้ ส่วนในการวิจัยในปัจจุบันระบุไว้ว่า  1.ไม่ควรใช้ว่านชักมดลูกในผู้ป่วยที่มีปัญหาท่อน้ำดีอุดตัน เพราะว่านชักมดลูกนี้มีฤทธิ์ไปกระตุ้นทางเดินน้ำดี อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้  2.มีงานค้นหาในกระต่ายว่าว่านชักมดลูกมีผลต่อการทำงานของเกล็ดเลือด เช่นเดียวกับกระเทียม แปะก๊วย  โกจิเบอร์รี่  จึงไม่ควรใช้ว่านชักมดลูกร่วมกับยาต้านเกร็ดเลือดจำพวก แอสไพริน  วาร์ปาริน  และยาสลายลิ่มเลือดทุกประเภท ทั้งหมดนี้คือข้อควรรู้และข้อควรระวังในการใช้ว่านชักมดลูกซึ่งผู้เขียนคิดว่าก่อนจะนำมาใช้ควรต้องรู้เรื่องราวเหล่านี้จะเป็นการใช้ที่ถูกต้องและปลอดภัย

Tags : ว่านชักมดลูก

ออฟไลน์ teareborn

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 272
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: ข้อควรรู้และควรระวังในการใช้ว่านชักมดลูก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2017, 05:27:40 pm »
ข้อระวังในเรื่องของการกินสมุนไพรว่านชักมดลูก

ออฟไลน์ teareborn

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 272
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: ข้อควรรู้และควรระวังในการใช้ว่านชักมดลูก
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2017, 06:16:31 pm »
้เรื่องระวังเกี่ยวกับการใช้ว่านชักมดลูก

ออฟไลน์ teareborn

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 272
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: ข้อควรรู้และควรระวังในการใช้ว่านชักมดลูก
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2017, 11:26:46 am »
ความเป็นพิษว่านชักมดลูก

ออฟไลน์ teareborn

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 272
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: ข้อควรรู้และควรระวังในการใช้ว่านชักมดลูก
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 30, 2017, 10:42:41 am »
ข้อระวังในการใช้ว่านชักมดลูด