เมื่อคนจนๆ ลองใช้ SONY 55HX750

[ซ่องเจ๊หวี]

เป็น LED ตัวแรกในชีวิตครับ ซื้อเมื่อเดือน สิงหาคม 2555 แต่เพิ่งมีโอกาสมาโพส
อุปกรณ์ต้นทางที่เปลี่ยนเพิ่มก็มี
1 ปลั๊กผนังต้นทางใช้ OYAIDE R1(จากเดิมใช้ PS AUDIO POWER PORT PREMIER)
2 สายไฟ cardas golden reference power cord(ท่อหดเทา)ต่อจากปลั๊กผนังมาที่เครื่องกรองไฟ
3 เครื่องกรองไฟ ... .... 6

แหล่งสัญญาณใช้
HIMEDIA 910B HD PLAYER
กับสาย hdmi jericho

SONY 55HX750 ให้ภาพที่มีมวล อิ่ม  ดูมีน้ำหนัก มีมิติ ลึกตื้นหนาบาง ไม่บี้แบน ให้สีสันที่เข้มข้น ติดไปทางสดเล็กน้อย
โหมดปรับภาพสำเร็จรูปที่บริษัทตั้งมาให้ ผมลองทุกโหมดแล้วพบว่ามันสว่างและให้สีที่จัดจ้านเกินความเป็นจริงไปมาก
ผมจึงเลือกที่จะปรับภาพเองตามใจชอบ
รุ่นนี้เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับการดูในห้องที่เปิดไฟ หรือมีไฟสลัวๆ เพราะแสงไฟเหล่านั้นจะทำให้สีของภาพดูสด สีดำเกลี้ยงมิติลึก
หากปิดไปจะพบอาการแสงรั่วให้เห็นอยู่บ้าง และสีดำก็จะดำไม่สนิทนัก(อมเทาหน่อยๆ)และความฉ่ำของสีก็จะลดลงไป
จึงเหมาะกับท่านที่ใช้งานแบบเปิดไฟดูมากกว่าปิดไฟครับ

ดูกับฟรีทีวีจานดำ PSI ตอนแรกผมนึกว่าทีวียิ่งใหญ่ภาพมันจะยิ่งแตกแต่ปรากฎว่าภาพชัดใช้ได้ทีเดียวครับ
ภาพฟรีทีวีดูดีกว่า LCD PANASONIC 32 นิ้ว นิ้วตัวเก่าที่ผมใช้อยู่อีกครับ

ภาพ3D เป็นแบบ ACTIVE ถ้าเปิด MOTIONFLOW แล้วภาพจะไม่กระพริบเลยครับ ดูเนียนและสบายตามากๆ
ภาพจะลอยมากหรือน้อย เท่าที่ผมลองดูมาหลายๆเรื่องพบว่า มันแล้วแต่หนังครับ
ผมลองเปิดกับ LG 3D DEMO ที่โชว์ตามห้างแล้วพบว่า ภาพลอยมากๆแบบทะลุจอเหมือนกันครับ
แต่ได้รายละเอียดภาพที่มากกว่าเนียนกว่า เพราะไม่เห็นเส้นสแกนเป็นขีดๆตามแนวนอนเหมือนระบบ3D polarized

เสียงลำโพงทีวี...ก็ธรรมดาๆครับ พอฟังไหวเอาไว้ดู FREE TV ทั่วไป แต่ดูหนังนี่ควรจะหาชุดโฮมเล็กๆสักชุดมาช่วยครับ
ไม่งั้นฟังไม่ได้อารมณ์เลย (แหงล่ะ ๕๕๕๕๕)

ปลั๊กผนัง สายไฟ และเครื่องกรองไฟ อุปกรณ์ต้นทาง ๓ สิ่งนี้ส่งผมต่อคุณภาพของภาพเป็นอย่างยิ่งเลยนะครับ
พอผมลองสลับเปลี่ยนไปใช้ปลั๊กผนังตราช้างตัวละร้อยกว่าบาท+ปลั๊กรางกากๆ เท่านั้นแหละครับ...รับไม่ได้เลย
มิติภาพ เฉดสี รายละเอียด DROP ลงไปมาก NOISE ก็เพิ่มขึ้นเยอะเลย สุดท้ายก็ต้องกลับไปใช้ อุปกรณ์ต้นทางดีๆแบบเดิมครับ ๕๕๕๕๕

ส่วนฟังชั้นการใช้งานอื่นๆเช่น อินเตอร์เน็ต YOUTUBE พวกนี้ผมไม่ได้ใช้เลยครับเพราะส่วนใหญ่จะใช้งานจาก PC เสียมากกว่า

โดยรวมแล้วเป็น LED ที่ให้ภาพคุ้มกับค่าตัวที่จ่ายไปมากเลยครับสำหรับ SONY 55HX750

ขอบคุณครับ

ปล. HX750 เป็นLEDที่ขายดีมากๆรุ่นหนึ่ง แต่คนใช้ไม่ค่อยมารีวิวกันเลยแฮะ สงสัยมัวแต่หลงเสน่ห์ในภาพของ HX750 กันจนเพลิน ๕๕๕๕๕

[ซ่องเจ๊หวี]

รูปนี้เป็นสภาพปัจจุบัน หลังจากเปลี่ยนลำโพงคู่หน้าจาก ELAC มาเป็น SONY เสียงห่วยลงแต่ สีของลำโพงกลมกลืนกับทีวีมากขึ้น ๕๕๕๕๕

[ซ่องเจ๊หวี]

เจ้าลำโพง ELAC BS53 บัดนี้ได้ย้ายมาประจำการในห้องนอนแล้ว
รวมกับชุดฟังเพลง 2CH และPLASMA TV PANASONIC P50ST30T  ด้วย

[fish_dvd]

เจ้าลำโพง ELAC BS53 บัดนี้ได้ย้ายมาประจำการในห้องนอนแล้ว
รวมกับชุดฟังเพลง 2CH และPLASMA TV PANASONIC P50ST30T  ด้วย

ทีวียังไม่แกะสติกเกอร์เลยครับ 

รบกวนถามท่าน dramin ทีวี 2 ตัวนี้ดูหนังหรือดูฟรีทีวี
มีข้อดี ข้อด้อย แตกต่างกันยังไงบ้างครับ   

[Eakapan]

สวยทั้ง 2 เครื่องเลยครับ

[ซ่องเจ๊หวี]

เจ้าลำโพง ELAC BS53 บัดนี้ได้ย้ายมาประจำการในห้องนอนแล้ว
รวมกับชุดฟังเพลง 2CH และPLASMA TV PANASONIC P50ST30T  ด้วย

ทีวียังไม่แกะสติกเกอร์เลยครับ  

รบกวนถามท่าน dramin ทีวี 2 ตัวนี้ดูหนังหรือดูฟรีทีวี
มีข้อดี ข้อด้อย แตกต่างกันยังไงบ้างครับ  

ขอเทียบเป็นข้อๆนะครับ
1.ภาพจากfree tv SONY 55HX750 ถือว่าทำได้ดีกว่า LCD และ LED รุ่นต่ำๆ ครับ ภาพจะไม่หยาบมาก ถ้าเปิด motionflow
จะทำให้การเคลื่อนไหวใน free tv นุ่มนวล ลื่นไหลมากขึ้นครับ
ส่วน PANASONIC P50ST30T ดูฟรีทีวีได้ดีมากๆๆๆๆๆๆๆครับ LED เทียบไม่ติดเลย เกลี่ยภาพได้นุ่มนวล เนียน แทบไม่เห็นรอยหยักเลยครับ
ยิ่งถ้าปรับภาพดีๆหน่อย ผมว่าดูช่อง 3 5 7 9 จะชัดกว่าดู DVD(5) อีกครับ

2.ภาพจาก BLURAY DISC SONY 55HX750 จะออกแนวคม กระจ่าง สว่าง รายละเอียดเยอะ สีจะสดแต่ด้านๆหน่อยออกแนวสีสังเคาะห์
ไม่ใช่สีธรรมชาติ ถ้าหนังอัดภาพมาดี ภาพก็จะสวยมากครับ เช่นเรื่อง The Three Musketeers รายละเอียดเล็กๆน้อยๆบนลายเสื้อผ้า โคมไฟในวัง หรือเครื่องเพชร
นี่อลังการสุดๆไปเลยครับ แต่ถ้าหนังอัดภาพมาห่วยก็จะเห็นความห่วยของหนังชัดเจนมากขึ้นแหละครับ(โดยเฉพาะหนังค่าย twenty centuryfox นี่เห็น noiseเป็นจุดๆ ภาพหยาบรำคาญตามากครับ ต้องใช้โหมดลดสัญญาณรบกวนจะช่วยได้มาก)
การเคลื่อนไหวถ้าปิด motionflow ภาพจะกระตุกพอสมควร แต่ถ้าเปิดภาพก็จะลื่นขึ้นมากๆ ในบางจังหวะอาจจะดูลื่นเกินไปจนไม่ธรรมชาติบ้าง
แต่โดยรวมแล้วผมว่าเปิดไว้ ดีกว่าปิดครับ ซึ่ง motionflow เลือกได้หลายระดับด้วย แล้วแต่ว่าชอบแบบไหนครับ
เรื่องสีดำยังดำไม่สนิทสักเท่าไหร่ครับ ปิดไฟดูจะเห็นแสงรั่วตรงมุมจอทั้ง4มุมอยู่ แต่ก็ไม่ได้รั่วมากจนน่าเกลียด เหมือนรุ่นนี้ออกแบบมาให้เปิดไฟดูครับ
เพราะตอนเปิดไฟสีสันจะอิ่มเนียนกว่า แต่ถ้าปิดไฟแล้วสีจะด้านๆหน่อยครับ

ภาพPANASONIC P50ST30Tจะออกแนว อบอุ่น นุ่มๆ รายละเอียดน้อยกว่า LED แต่ได้ความสบายตามากครับดูได้เรื่อยๆไม่แสบตา สีสันเป็นธรรมชาติกว่า
คือแต่ละสีจะมีความชุ่มชื้นอยู่ในตัว(ไม่ด้าน) ความแวววาวของโลหะ รถยนต์ เหล็กๆ ทำได้ดีกว่า LED และที่สำคัญคือ มิติภาพเยี่ยมครับ มี ลึก ตื้น หนา บาง
การเคลื่อนไหวก็กินขาด LED โดยไม่ได้ต้องเปิดระบบแทรกเฟรมครับ มันธรรมชาติอยู่แล้วให้อารมณ์เหมือนดูหนังจากฟิล์มสุดๆครับ
เรื่องสีดำก็ดำสนิทกว่า LED ครับ ปิดไฟดูไม่มีปัญหาแสงรั่วให้กวนใจ

SONY 55HX750 ดูแล้วได้อารมณ์...สะใจ เหมาะเอาไว้เป็นจอ monitor ,เล่นเกมส์,ดูภาพHDจากกล้อง HANDYCAM,จัดพวกงานปาร์ตี้ สังสรรค์กับเพื่อน ฯลฯ
ใช้งานได้ทุกรูปแบบครับ
PANASONIC P50ST30T ดูแล้วได้อารมณ์...ผ่อนคลาย เหมาะเอาไว้ดูฟรีทีวี ,ดูหนัง HD ที่ต้องการ real colour มากกว่าครับ

3.ภาพ 3D PANASONIC P50ST30T ทำได้เนียนครับ แต่มีอาการกระพริบ ยิ่งเปิดไฟในห้องแล้วใส่แว่นมองหลอดไฟ โอ้โห หลอดไฟกระพริบรัวๆๆๆๆๆๆเลยครับ
ส่วนSONY 55HX750แม้จะเป็น 3D ACTIVE เหมือนกัน  แต่ภาพไม่กระพริบครับ จะเปิดไฟ หรือปิดไฟดูก็ได้หมด มิติก็ดีเยี่ยมทั้ง ลอย และ ลึก(ขึ้นอยู่กับต้นฉบับด้วย)

ขอบคุณครับ

[fish_dvd]

โอ้โห ท่าน dramin อธิบาบได้ละเอียดมาำกๆ
ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ 

[torres09]

นี่ขนาดคนจนยังใช้ 55HX750 เลยเหรอครับ อิจฉาๆ อิอิ

[DBPRT]

ไม่จนแล้วมั้งครับใช้ขนาดนี้ 

[Ouddy]

ผมเพิ่งได้มา เป็น LED TV เครื่องแรก แต่มือใหม่ ขอคำแนะนำในการใช้และปรับภาพต่างๆ ด้วยครับ

[ซ่องเจ๊หวี]

ผมเพิ่งได้มา เป็น LED TV เครื่องแรก แต่มือใหม่ ขอคำแนะนำในการใช้และปรับภาพต่างๆ ด้วยครับ

ของผมปรับภาพแบบนี้ครับ

Picture Mode    Custom
Backlight:    0 (เปิดbacklightแล้วเหมือนจ้องหลอดไฟครับแสบตาผมเลยปิดแต่บางครั้งถ้าเปิดก็ไม่เกินระดับ2ครับ)
Picture :          90
Brightness:    45
Color:    50
Hue:    0
Color Temperature:    Warm1
Sharpness:    50
Noise Reduction:    Off (แต่ถ้าหนังอัดภาพมาห่วยๆหยาบๆเปิดจะดีกว่าปิดครับจะช่วยลดความหยาบของภาพได้)
MPEG Noise Reduction:    Off
Dot Noise Reduction:    Off
MotionFlow Reduction:    smooth
CineMotion Reduction:    Off

Advance Settings
Black Corrector:    Off
Adv. Contrast Enhancer:    Off
Gamma:    -1
Auto Light Limiter:    Off <----- มันใช่ local dimming หรือ frame dimming หรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ?
Clear White:    Off
Live Color:    Medium
White Balance:    Off
Detail Enhancer:    Off
Edge Enhancer:    Off

ช่องต่อ HDMI มี ๔ ช่อง เท่าที่ผมลองมา ๓ เดือน ช่อง HDMI 1 กับ 2 ภาพจะออกมาดีที่สุดครับแต่จะเป็นภาพคนละแนวกันเลย

ต่อช่อง HDMI 1 จะได้ภาพที่มีสีสันธรรมชาติ การไล่โทนสีอ่อนแก่ทำได้ดีมาก มิติภาพมีหลายชั้น ภาพจะดูมีมวล มีน้ำหนัก ออกแนวภาพจากฟิล์ม
เหมาะกับการใช้งานดูหนังHDทั่วไป แต่ช่องนี้ต้องใช้สาย HDMI ที่มีคุณภาพสักหน่อยครับ ไม่งั้นจะเกิดอาการภาพกระพริบ
ผมลองใช้สายแถม ตอนฉากMENUของ HD player ภาพกระพริบตลอดเลยครับทำยังไงก็ไม่หยุด
พอเปลี่ยนมาเป็นสาย kaiboer เส้นละ800 บาท อาการกระพริบลดลงมาก แต่ยังมีกระพริบอยู่เป็นบางครั้ง
แต่พอผมเปลี่ยนเป็นสาย LCD jerico เส้นละ2000กว่าบาท ก็ไม่มีอาการภาพกระพริบให้เห็นอีกเลยครับ

ต่อช่อง HDMI 2 จะได้ภาพที่สีสด ฉูดฉาด ภาพจะคมขึ้น สะอาดขึ้น แต่มิติและมวลภาพจะแบนกว่าช่องแรก ภาพจะออกแนวภาพdigital ครับ
เหมาะกับการใช้งานดูหนังanimation การ์ตูน MV คอนเสิร์ตเกาหลี หรือหนังที่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคเยอะๆ รวมทั้งหนัง3Dด้วยครับ
ข้อดีอีกข้อของช่องHDMI2นี้คือ ไม่ว่าจะใช้สายแถมหรือสายราคาถูกภาพก็จะไม่มีอาการกรพริบให้เห็นเลยครับ
ดังนั้นถ้าใช้สายแถมหรือสายถูกๆ แนะนำให้ต่อช่องนี้ครับ

ช่อง HDMI4 ภาพจะแนวเดียวกับ HDMI1 แต่จะนุ่มกว่า จนดูเบลอๆไปบ้างและมีอาการกระพริบของภาพเช่นเดียวกัน
ส่วนช่อง HDMI3 ภาพจะแนวเดียวกับ HDMI2 ไม่ค่อยแตกต่างกันสักเท่าไหร่ และไม่มีอาการกระพริบของภาพเช่นกันครับ

ลองเลือกปรับภาพในแบบที่คุณชอบ และใช้ช่อง HDMI ที่คิดว่าเหมาะสมกับการใช้งานของท่านแล้วมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันดูครับ

[Ouddy]

ผมเพิ่งได้มา เป็น LED TV เครื่องแรก แต่มือใหม่ ขอคำแนะนำในการใช้และปรับภาพต่างๆ ด้วยครับ

ของผมปรับภาพแบบนี้ครับ

Picture Mode    Custom
Backlight:    0 (เปิดbacklightแล้วเหมือนจ้องหลอดไฟครับแสบตาผมเลยปิดแต่บางครั้งถ้าเปิดก็ไม่เกินระดับ2ครับ)
Picture :          90
Brightness:    45
Color:    50
Hue:    0
Color Temperature:    Warm1
Sharpness:    50
Noise Reduction:    Off (แต่ถ้าหนังอัดภาพมาห่วยๆหยาบๆเปิดจะดีกว่าปิดครับจะช่วยลดความหยาบของภาพได้)
MPEG Noise Reduction:    Off
Dot Noise Reduction:    Off
MotionFlow Reduction:    smooth
CineMotion Reduction:    Off

Advance Settings
Black Corrector:    Off
Adv. Contrast Enhancer:    Off
Gamma:    -1
Auto Light Limiter:    Off <----- มันใช่ local dimming หรือ frame dimming หรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ?
Clear White:    Off
Live Color:    Medium
White Balance:    Off
Detail Enhancer:    Off
Edge Enhancer:    Off

ช่องต่อ HDMI มี ๔ ช่อง เท่าที่ผมลองมา ๓ เดือน ช่อง HDMI 1 กับ 2 ภาพจะออกมาดีที่สุดครับแต่จะเป็นภาพคนละแนวกันเลย

ต่อช่อง HDMI 1 จะได้ภาพที่มีสีสันธรรมชาติ การไล่โทนสีอ่อนแก่ทำได้ดีมาก มิติภาพมีหลายชั้น ภาพจะดูมีมวล มีน้ำหนัก ออกแนวภาพจากฟิล์ม
เหมาะกับการใช้งานดูหนังHDทั่วไป แต่ช่องนี้ต้องใช้สาย HDMI ที่มีคุณภาพสักหน่อยครับ ไม่งั้นจะเกิดอาการภาพกระพริบ
ผมลองใช้สายแถม ตอนฉากMENUของ HD player ภาพกระพริบตลอดเลยครับทำยังไงก็ไม่หยุด
พอเปลี่ยนมาเป็นสาย kaiboer เส้นละ800 บาท อาการกระพริบลดลงมาก แต่ยังมีกระพริบอยู่เป็นบางครั้ง
แต่พอผมเปลี่ยนเป็นสาย LCD jerico เส้นละ2000กว่าบาท ก็ไม่มีอาการภาพกระพริบให้เห็นอีกเลยครับ

ต่อช่อง HDMI 2 จะได้ภาพที่สีสด ฉูดฉาด ภาพจะคมขึ้น สะอาดขึ้น แต่มิติและมวลภาพจะแบนกว่าช่องแรก ภาพจะออกแนวภาพdigital ครับ
เหมาะกับการใช้งานดูหนังanimation การ์ตูน MV คอนเสิร์ตเกาหลี หรือหนังที่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคเยอะๆ รวมทั้งหนัง3Dด้วยครับ
ข้อดีอีกข้อของช่องHDMI2นี้คือ ไม่ว่าจะใช้สายแถมหรือสายราคาถูกภาพก็จะไม่มีอาการกรพริบให้เห็นเลยครับ
ดังนั้นถ้าใช้สายแถมหรือสายถูกๆ แนะนำให้ต่อช่องนี้ครับ

ช่อง HDMI4 ภาพจะแนวเดียวกับ HDMI1 แต่จะนุ่มกว่า จนดูเบลอๆไปบ้างและมีอาการกระพริบของภาพเช่นเดียวกัน
ส่วนช่อง HDMI3 ภาพจะแนวเดียวกับ HDMI2 ไม่ค่อยแตกต่างกันสักเท่าไหร่ และไม่มีอาการกระพริบของภาพเช่นกันครับ

ลองเลือกปรับภาพในแบบที่คุณชอบ และใช้ช่อง HDMI ที่คิดว่าเหมาะสมกับการใช้งานของท่านแล้วมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันดูครับ

ขอบคุณครับ ปรับตามแล้ว
มีอีกคำถาม คีย์บอร์ดตอนใช้เน็ตมันใช้ยากมาก เราซื้อwireless keyboard computer มาเสียบใช้ได้มั้ยครับ

[Ouddy]

ผมเพิ่งได้มา เป็น LED TV เครื่องแรก แต่มือใหม่ ขอคำแนะนำในการใช้และปรับภาพต่างๆ ด้วยครับ

ของผมปรับภาพแบบนี้ครับ

Picture Mode    Custom
Backlight:    0 (เปิดbacklightแล้วเหมือนจ้องหลอดไฟครับแสบตาผมเลยปิดแต่บางครั้งถ้าเปิดก็ไม่เกินระดับ2ครับ)
Picture :          90
Brightness:    45
Color:    50
Hue:    0
Color Temperature:    Warm1
Sharpness:    50
Noise Reduction:    Off (แต่ถ้าหนังอัดภาพมาห่วยๆหยาบๆเปิดจะดีกว่าปิดครับจะช่วยลดความหยาบของภาพได้)
MPEG Noise Reduction:    Off
Dot Noise Reduction:    Off
MotionFlow Reduction:    smooth
CineMotion Reduction:    Off

Advance Settings
Black Corrector:    Off
Adv. Contrast Enhancer:    Off
Gamma:    -1
Auto Light Limiter:    Off <----- มันใช่ local dimming หรือ frame dimming หรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ?
Clear White:    Off
Live Color:    Medium
White Balance:    Off
Detail Enhancer:    Off
Edge Enhancer:    Off

ช่องต่อ HDMI มี ๔ ช่อง เท่าที่ผมลองมา ๓ เดือน ช่อง HDMI 1 กับ 2 ภาพจะออกมาดีที่สุดครับแต่จะเป็นภาพคนละแนวกันเลย

ต่อช่อง HDMI 1 จะได้ภาพที่มีสีสันธรรมชาติ การไล่โทนสีอ่อนแก่ทำได้ดีมาก มิติภาพมีหลายชั้น ภาพจะดูมีมวล มีน้ำหนัก ออกแนวภาพจากฟิล์ม
เหมาะกับการใช้งานดูหนังHDทั่วไป แต่ช่องนี้ต้องใช้สาย HDMI ที่มีคุณภาพสักหน่อยครับ ไม่งั้นจะเกิดอาการภาพกระพริบ
ผมลองใช้สายแถม ตอนฉากMENUของ HD player ภาพกระพริบตลอดเลยครับทำยังไงก็ไม่หยุด
พอเปลี่ยนมาเป็นสาย kaiboer เส้นละ800 บาท อาการกระพริบลดลงมาก แต่ยังมีกระพริบอยู่เป็นบางครั้ง
แต่พอผมเปลี่ยนเป็นสาย LCD jerico เส้นละ2000กว่าบาท ก็ไม่มีอาการภาพกระพริบให้เห็นอีกเลยครับ

ต่อช่อง HDMI 2 จะได้ภาพที่สีสด ฉูดฉาด ภาพจะคมขึ้น สะอาดขึ้น แต่มิติและมวลภาพจะแบนกว่าช่องแรก ภาพจะออกแนวภาพdigital ครับ
เหมาะกับการใช้งานดูหนังanimation การ์ตูน MV คอนเสิร์ตเกาหลี หรือหนังที่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคเยอะๆ รวมทั้งหนัง3Dด้วยครับ
ข้อดีอีกข้อของช่องHDMI2นี้คือ ไม่ว่าจะใช้สายแถมหรือสายราคาถูกภาพก็จะไม่มีอาการกรพริบให้เห็นเลยครับ
ดังนั้นถ้าใช้สายแถมหรือสายถูกๆ แนะนำให้ต่อช่องนี้ครับ

ช่อง HDMI4 ภาพจะแนวเดียวกับ HDMI1 แต่จะนุ่มกว่า จนดูเบลอๆไปบ้างและมีอาการกระพริบของภาพเช่นเดียวกัน
ส่วนช่อง HDMI3 ภาพจะแนวเดียวกับ HDMI2 ไม่ค่อยแตกต่างกันสักเท่าไหร่ และไม่มีอาการกระพริบของภาพเช่นกันครับ

ลองเลือกปรับภาพในแบบที่คุณชอบ และใช้ช่อง HDMI ที่คิดว่าเหมาะสมกับการใช้งานของท่านแล้วมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันดูครับ

ขอบคุณครับ ปรับตามแล้วครับ
มีอีกคำถามครับ คีย์บอร์ดใช้wireless keyboard เสียบใช้แทนได้มั้ยครับ
ใช้รีโมทกดยากมากตอนเล่นเน็ต

[ซ่องเจ๊หวี]

ไม่น่าจะใช้ keyboard กับทีวีได้นะครับ
มันคนละระบบกัน

[ซ่องเจ๊หวี]

ดูเรื่อง TAI CHI ZERO แล้วเพ้อถึงนางเอกหลายวันติดกันเลยครับ
ใบหน้าเธอลอยอยู่ต่อหน้าผมทั้งวันทั้งคืน ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ 

สมัย Angelababy ดังช่วงแรกๆเมื่อสองสามปีก่อนผมเฉยๆ แต่พอมาดูเรื่องนี้แล้วโคตรชอบเลยครับ

[ciena]

ดูเรื่อง TAI CHI ZERO แล้วเพ้อถึงนางเอกหลายวันติดกันเลยครับ
ใบหน้าเธอลอยอยู่ต่อหน้าผมทั้งวันทั้งคืน ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ 

สมัย Angelababy ดังช่วงแรกๆเมื่อสองสามปีก่อนผมเฉยๆ แต่พอมาดูเรื่องนี้แล้วโคตรชอบเลยครับ

ขอไปดูด้วยคนได้ไหมครับ 5555555

[ซ่องเจ๊หวี]

ตอนนี้เปลี่ยนจากเครื่องกรองไฟ ... ....6 ไปใช้ ... cleansorce 1se แทนครับ
ภาพที่ได้จะมีรายละเอียดมากขึ้นอีกระดับ ความสว่างสูงขึ้น มิติภาพแบ่งเป็นชั้นๆมากกว่าเดิมแบบเห็นได้ชัดเลยครับ

แต่อุณหภูมิสีจะเปลี่ยนไปในโทนเย็นมากขึ้น ต้องมาปรับค่าภาพใหม่หมดครับ

[torres09]

ภาพสวยมากครับ