ยื่นภาษีออนไลน์ วิธีการยื่นภาษีบุคคลธรรมดาออนไลน์

[Tityberry]

ช่วงปีใหม่ชาวไทยทุกคนที่มีรายได้ต้องยื่นภาษี โดยเป็นการชำระเงินให้รัฐบาลนำไปพัฒนาประเทศต่อไป นับว่าเป็นหน้าที่คนที่มีรายได้จำเป็นต้องทำ ดังนั้น รัฐบาลจึงหาช่องทางสะดวกให้กับบุคคลที่มีรายได้ ด้วยการทำระบบการ ยื่นภาษีออนไลน์ เพื่อความสะดวกสบาย แต่บางท่านก็อาจจะยังใช้ไม่เป็นกับขั้นตอนนี้มากนัก ทาง Wealth Care จึงมีสอน STEP by STEP ของการ ยื่นภาษีออนไลน์ ด้วยขั้นตอนไม่ยาก มาเรียนรู้กันได้เลย

1. เตรียมเอกสารทั้งรายได้ และลดหย่อนภาษี ก่อนจะทำการยื่นภาษีออนไลน์ เราควรเตรียมตัวโดยการหาเอกสารต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับ รายได้ ค่าลดหย่อน เพื่อให้ตนเองรู้ว่ามีรายได้ทางใดบ้าง และเป็นจำนวนเงินเท่าไร เพื่อยื่นให้กับทางสรรพากรให้ถูกต้อง ซึ่งเอกสารและหลักฐานที่จำเป็น ได้แก่
- ใบทวิ 50 เป็นเอกสารที่แจ้งว่าผู้จ้างเราจ่ายเงินให้เราเท่าไร และหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้เท่าใด
- เอกสารค่าลดหย่อนภาษี คือเอกสารจำเป็นสำหรับคนที่วางแผนการเสียภาษีมาบ้างแล้ว จะมีการซื้อค่าลดหย่อนภาษี ซึ่งเอกสารที่คนส่วนใหญ่จะมี เช่น หนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมบ้าน หนังสือรับรอง LTF RMF เบี้ยประกันชีวิต หนังสือการรับรองเงินบริจาค

2. ไปที่เว็บไซต์สรรพากร http://rdserver.rd.go.th/publish/index.php เข้าและคลิกที่หัวข้อยื่นแบบออนไลน์ หรือ E-FILING ยื่นภาษีออนไลน์

3. กดยื่นภาษีแบบ ภ.ง.ด. 90/91

4. คลิกเมนูลงทะเบียนสำหรับสมัครและเริ่มต้นการยื่นภาษีผ่านอินเทอร์เน็ตกันดีกว่า

5. เลือกแบบการลงทะเบียน

6. ใส่ข้อมูลส่วนตัว สิ่งสำคัญคือข้อมูลหลังบัตรประชนชน ฉะนั้น อย่าลืมเตรียมบัตรประชาชนให้พร้อม

7. เมื่อสมัครสำเร็จแล้วก็กลับมาเข้าสู่ระบบ สำหรับเข้าสู่การยื่นภาษีออนไลน์ เพื่อเป็นการเพิ่มรายละเอียดส่วนตัวสำหรับใช้ในการจัดส่งหลักฐาน เช่น ทางสรรพากรอาจมีการส่งเอกสารมาหาเราเพื่อขอเอกสารยืนยันเพิ่มเติม และเมื่อกรอกข้อมูลที่อยู่เสร็จแล้ว ให้กดปุ่มทำรายการต่อไป เพื่อเริ่มขั้นตอนที่ 1 ของการยื่นภาษีออนไลน์

8. ตรงจุดนี้ จะสังเกตเห็นได้ว่า มีแถบสีฟ้าและเทาข้างบน แสดงให้เห็นว่าเราอยู่ในขั้นตอนใดของการยื่นภาษีแล้ว ตรงจุดนี้จะบ่งบอกสถานะของตัวผู้ยื่นภาษีว่ามีสถานภาพเช่นไร โดยเป็นการเลือกด้วยว่าจะยื่นภาษีคู่สมรสหรือแยกยื่น ข้อสำคัญอีกจุดหนึ่งคือที่หัวข้อสถานะการยื่นแบบ ทุกคนที่เพิ่งเข้ามายื่นแบบภาษีออนไลน์ครั้งแรกต้องเลือกยื่นแบบปกติ

9. ขั้นตอนต่อไปเป็นหน้าที่สำคัญสุด ๆ เป็นการบอกสรรพากรว่าเรามีรายได้ และค่าลดหย่อนตรงไหนบ้าง ง่ายๆก็คือ หากเรามีรายได้หรือค่าลดหย่อนที่หัวข้อใดก็ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกที่หัวข้อนั้น ซึ่งเงินได้ที่คนส่วนมากมีแน่ ๆ คือ มาตรา 40 (1) พูดง่าย ๆ คือเงินเดือน และค่าลดหย่อนที่ส่วนมากน่าจะมีคือ เงินสมทบกองทุนประกันสังคม มีข้อไหนก็คลิกถูกที่ข้อนั้น ๆ แน่นอนว่าถ้าเราข้ามขั้นตอนนี้ไปแล้ว แต่เราเพิ่งคิดได้ว่า เราเคยบริจาคเงินให้แก่การศึกษา เราก็กลับมาตรงจุดนี้ใหม่ เพื่อคลิกเครื่องหมายถูกเพิ่มเข้าไปได้

10. ต่อจากที่เราเลือกว่าเรามีเงินได้ และค่าลดหย่อนอะไรบ้าง ขั้นตอนต่อมาคือเราต้องแจ้งว่าเงินได้ และค่าลดหย่อนเหล่านี้เป็นจำนวนเท่าใด แน่นอนว่ามันจะเกี่ยวเนื่องกับขั้นตอนก่อนหน้านี้ ถ้าเราติ๊กถูกที่ข้อไหน ข้อนั้นก็เป็นช่องสีขาวให้เรากรอก

11. ขั้นตอนสุดท้าย คือ หลังจากที่เราใส่รายได้และค่าลดหย่อนเข้าในระบบหมดแล้ว ระบบจะนำไปคิดคำนวณตามภาษีขั้นบันไดตามที่เราเคยได้ยิน และคำนวณออกมาให้เรียนร้อยว่าต้องเสียภาษี หรือจะได้คืนภาษีเท่าใด

12. ขั้นตอนสุดท้ายของการยื่นภาษีผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นหน้าที่ยืนยันรายละเอียดทั้งหมด ที่เรากรอกไปตั้งแต่ต้นว่า รายละเอียดถูกต้องและเป็นความจริง ถ้ามีตรงไหนที่เรากรอกผิดก็สามารถกลับไปแก้ไขได้ แต่ถ้าเรียบร้อยแล้วก็กดยืนยันการยื่นแบบได้เลย

เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ ในการยื่นภาษีผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นสิ่งที่ไม่ยากและส่งผลให้ผู้ยื่นเซฟเวลาขึ้นเยอะ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเดินทางไปสรรพากร รวดเร็ว และสบายกว่าเมื่อก่อนมากทีเดียว ถึงกระนั้น การยื่นภาษียังมีขั้นตอนอีกนิด เพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเช่นกัน หลังจากยื่นเสร็จแล้ว หากสรรพากรค้นพบความผิดปกติจากรายละเอียดที่เรายื่นไป ทางสรรพากรจะส่ง SMS หรือจดหมายมาหาเราเพื่อขอหลักฐานยืนยันเพิ่มเติม ดังนั้น เราทุกคนก็ต้องตระหนักว่าคุณ ๆ ทั้งหลายต้องยื่นข้อมูลที่เป็นจริงเท่านั้น

ศึกษา ยื่นภาษีออนไลน์ เพิ่มเติมได้ที่ https://wealthcare.krungthai-axa.co.th/step-by-step-tax-2559/

••••••••••••••••••••••••••••••••••••