เที่ยวต่างประเทศแต่ละครั้ง มีหลายเรื่องต้องจัดการโดยเฉพาะเรื่อง "เงิน"
เดี๋ยวนี้ไม่ต้องเสียเวลาไปแลกเงินแล้ว แค่พกบัตรใบเดียวจบ
เปรียบเทียบ "4 บัตรรูดใช้จ่ายต่างประเทศ" ของแต่ละแบงก์กันไปเลย
ใครจะมาวินงานนี้ ลองศึกษาดูไว้ ได้ใช้แน่นอนนน~
เวลาจะเดินทางไปต่างประเทศแต่ละที ก็ต้องมีเรื่องที่จะต้องจัดการเยอะแยะไปหมด ตั้งแต่เตรียมหนังสือเดินทาง (Passport) ขอเอกสารหลักฐานแสดงรายได้เพื่อใช้ขอวีซ่า หรือไปแลกเงินเป็นสกุลของประเทศที่กำลังจะเดินทางไปเอาไว้ใช้จ่ายที่โน่น ซึ่งการจะหาที่แลกเงินได้สักที่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนก็ต้องมีการเทียบเรทของแต่ละที่ว่าที่ไหนดีที่สุด เสียเวลาทั้งในการหาข้อมูล แถมยังต้องเสียเวลาไปต่อคิวแลกเงินอีก บางทีคิวก็ยาวต้องต่อแถวเป็นชั่วโมงก็มี (พี่ โปรโมชั่น โดนมากับตัวเองเลย 555) อยากได้เรทถูกก็ต้องอดทนนิดนึงเนาะ แต่ความจริงเดี๋ยวนี้หลายธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้มากๆ ก็คือ "บัตรสำหรับรูดเมืองนอกโดยเฉพาะ" ซึ่งชูจุดเด่นในประเด็น ไม่มีค่าความเสี่ยงในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน 2.5% ซึ่งปกติถ้าใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ในต่างประเทศจะโดนคิดหมดเลย![](http://postto.me/211/t_31.jpg)
ในปัจจุบันนี้หลายธนาคารได้เปิดตัว บัตรสำหรับรูดใช้จ่ายในต่างประเทศ ออกมากันอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนชอบไปเที่ยวเมืองนอก จะได้รับสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้น ประหยัดเวลา แถมบางทีอาจจะประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าเดิมด้วยซ้ำ ทีนี้เรามาเจาะลึกกันแต่ละบัตรเลยดีกว่าว่าจะมีจุดเด่น ,โปร หรือรายละเอียดยังไงบ้าง ซึ่งในบทความนี้จะพูดถึง 4 บัตรที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ได้แก่ Planet SCB, Krungthai Travel Card, TMB All Free และ Citibank Global Walletบัตรเติมเงิน Planet SCB ได้เปิดตัวไปในช่วงปลายเดือน ส.ค. 62 โดยตัวบัตรมีจุดเด่นคือ บัตรเป็นรูปแบบแนวตั้ง (บัตรอื่นเค้าเป็นแนวนอนกันหมดเลย) และลวดลายบนบัตรที่เป็นสัญลักษณ์ของค่าเงินสกุลต่างๆ ทั่วโลก แค่แว๊บแรกที่เห็นบัตร ก็สะดุดตาแล้วล่ะ แถมยังสมัครได้ฟรีอีกช่วงนี้สิ้นปี จะรอช้ากันได้ยังไงอ่ะเนอะจุดเด่นของบัตร PLANET SCB
-บัตรนี้เป็นบัตรเติมเงิน ไม่ใช่บัตรเดบิต เวลาจะนำไปใช้รูดซื้อสินค้าหรือถอนเงินสดที่ต่างประเทศ ก็จะต้องเติมเงินเข้าไปในบัตรก่อน แล้วแลก 13 สกุลเงินที่รองรับใน SCB Easy App ก่อนทำรายการด้วยนะ ส่วนถ้าเป็นประเทศอื่นๆ ก็รูดได้ตามปกติทั่วโลกได้จ้า
-เติมเงินง่ายๆ ผ่าน SCB Easy App หรือจะเข้าแอปพลิเคชั่นของธนาคารใดก็ได้ สแกน QR Code ด้านหลังบัตร ก็สามารถเติมเงินได้ทุกที่ ทุกเวลาจ้า สะดวกสุดๆ ไปเล้ยยย~
-ช่วงไหนเห็นว่าเรทดี รีบกดแลกไว้ก่อนผ่านแอปได้เลยจ้า เราสามารถเลือกอัตราแลกเปลี่ยนได้ตามใจเลย
สามารถใช้จ่ายซื้อสินค้าที่ร้านค้าต่างๆ ในไทย หรือใช้จ่ายออนไลน์ได้อีกด้วย แต่กดถอนเงินสดในไทยไม่ได้นะค่าธรรมเนียมบัตร
-ค่าธรรมเนียมแรกเข้า : 200 บาท (ฟรี! ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 62)
-ค่าธรรมเนียมรายปี : ฟรี! ตลอดอายุบัตร
-ค่าธรรมเนียมถอนเงินสดที่ต่างประเทศ : 100 บาท (ฟรี! ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 62)บัตร Krungthai Travel Card ถือเป็นใบแรกๆ เลยที่สามารถนำไปใช้รูดซื้อสินค้าในต่างประเทศ โดยไม่คิดค่าความเสี่ยงในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน 2.5% แถมถ้าเรทนี้ชอบแล้วก็แลกทิ้งเอาไว้ได้เลยอีก ช่วงนี้มีจัดโปรโมชั่น ฟรี! ค่าธรรมเนียมสมัครบัตรอีกด้วย แบบนี้สมัครไปเหอะ ใช้ไม่ใช้ว่ากันอีกทีนะ 555จุดเด่นของบัตร KRUNGTHAI TRAVEL CARD
-บัตรนี้เป็นบัตรเติมเงิน ไม่ใช่บัตรเดบิต ถ้าอยากใช้รูดซื้อสินค้า หรือถอนเงินสด ก็จะต้องเติมเงินเข้าบัตรก่อนนะ สามารถทำได้ผ่านแอป Krungthai NEXT เลยจ้า
-ถอนเงินสดที่ตู้ ATM ในต่างประเทศที่รองรับบัตร ไม่คิดค่าธรรมเนียม (ตั้งแต่วันนี้ - 31 ม.ค. 63)
-เมื่อเห็นว่าช่วงไหนเรทของอัตราแลกเปลี่ยนตอนนี้แหละดีมาก ก็สามารถแลกเงินเก็บไว้ได้ก่อนได้ด้วย
-ทำรายการแลกเงิน โอนเงิน ตรวจสอบข้อมูลการใช้ได้ตลอดเวลาผ่านแอป Krungthai Connextค่าธรรมเนียมบัตร
-ค่าธรรมเนียมแรกเข้า : 200 บาท (ฟรี! ถึงวันที่ 31 ม.ค. 63)
-ค่าธรรมเนียมรายปี : ฟรี! ตลอดอายุบัตร
-ค่าธรรมเนียมถอนเงินสดที่ต่างประเทศ : ประมาณ 100 บาท (ฟรี! ถึงวันที่ 31 ม.ค. 63)บัตรเดบิต TMB All Free ถือเป็นบัตรเดบิตใบแรกที่จะไม่มีการคิดค่าความเสี่ยงสกุลเงินต่างประเทศ 2.5% เมื่อไปรูดซื้อสินค้าในต่างประเทศทั่วโลก แค่พกบัตรนี้ไปด้วย ก็ไม่ต้องแลกเงินให้เสียเวลาเลย เพราะสามารถนำไปใช้จ่ายได้ทั่วโลกเลย มีเงินในบัญชีไว้ก็อุ่นใจ ไม่ต้องกดแลกเงิน หรือเติมเงินเข้าบัตรเลยจ้า รูดใช้จ่ายวนไปได้แบบหายห่วงจุดเด่นของบัตร TMB ALL FREE
-บัตรนี้เป็นบัตรเดบิต ซึ่งสามารถใช้ถอนเงินสดที่ตู้ ATM ได้ และรูดซื้อสินค้าต่างๆ หรือช้อปออนไลน์ได้ทั่วโลกที่รับบัตร VISA
-ไม่ต้องแลกค่าเงินสกุลต่างๆ ก่อนทำรายการเลย เพราะทุกครั้งที่รูดใช้จ่ายในต่างประเทศ ระบบจะแปลงค่าเงินเป็นสกุลนั้นโดยอัตโนมัติเลย โดยไม่ถูกคิดค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลค่าเงิน 2.5%
-เช็คเรทอัตราแลกเปลี่ยนได้ผ่านแอป TMB Touch ได้ตลอดเวลาเลย แต่ไม่สามารถเจาะจงเรทได้ รูดตอนไหนเรทก็จะเป็นตามเวลานั้นเลย
-เมื่อรูดใช้จ่ายที่ต่างประเทศ สามารถสะสมคะแนน TMB Wow เพื่อแลกของรางวัลต่างๆ ได้อีกด้วยค่าธรรมเนียมบัตร
-ค่าธรรมเนียมแรกเข้า : 500 บาท*
-ค่าธรรมเนียมรายปี : 350 บาท*
-ค่าธรรมเนียมถอนเงินสดที่ต่างประเทศ : 75 บาท
* ฟรี! ค่าธรรมเนียมแรกเข้า และรายปี สำหรับสมาชิก TMB Wealth Banking และ TMB Superior Bankingบัตรเดบิต Citibank Debit Mastercard อาจจะไม่ค่อยมีใครรู้จักมาก ว่าเป็นอีก 1 ใบที่นำไปใช้จ่ายที่ต่างประเทศได้เช่นกัน ซึ่งสามารถแลกเงินได้ 8 สกุลเงินผ่านแอป Citibank TH โดยจะต้องเปิดบริการ "Citibank Global Wallet" ก่อน เวลาจะไปใช้จ่ายสกุลเงินอะไร ก็ต้องเปิดบัญชีสกุลเงินนั้นก่อน แล้วโอนเงินเข้าไปบัญชีดังกล่าว ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนก็จะเป็นเรท ณ เวลาที่ทำรายการ ซึ่งถ้าเราโอเคกับเรทตอนนั้น ก็แลกเงินทิ้งไว้ก่อนได้เลยจ้า แถมตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษถึงสิ้นปี 62 เพียงรูดใช้จ่ายผ่านบัญชีสกุลเงินต่างประเทศ จะได้รับเงินคืน 5% อีกด้วยจุดเด่นของบัตร CITIBANK DEBIT MASTERCARD
-เป็นบัตร ATM สามารถถอนเงินสดได้ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศผ่านตู้ ATM ทั่วโลกกว่า 13,000 จุด โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ
-เป็นธนาคารระดับโลก ทำให้ในต่างประเทศมีเครื่อง ATM จำนวนมาก สามารถถอนเงินได้ตลอด จะไปที่ไหนก็มีเครื่องให้กดนะ
-สามารถทำรายการต่างๆ ได้ผ่านแอป Citibank TH ตลอดเวลา ทุกที่ ทั่วโลก
-รับเครดิตเงินคืน 5% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัญชีเงินสกุลต่างประเทศ ยอดรวมสะสมตั้งแต่ 20,000.- ขึ้นไป (ไม่จำกัดยอดขั้นต่ำต่อเซลส์สลิป) โดยจำกัดยอดเงินคืนสูงสุด 5,000.- สำหรับซิตี้โกลด์ และสูงสุด 2,000.- สำหรับซิตี้ ไพรออริตี้ รับสิทธิ์ได้โดยไม่ต้องลงทะเบียน
ค่าธรรมเนียมบัตร
-ค่าธรรมเนียมแรกเข้า : ฟรี
-ค่าธรรมเนียมรายปี : ฟรี*
-ค่าธรรมเนียมถอนเงินสดที่ต่างประเทศ : ฟรี
* ฟรี! ค่าธรรมเนียมรายปี เฉพาะการใช้บัตรที่ตู้เอทีเอ็มเท่านั้น กรณีต้องการใช้จ่ายรูดซื้อสินค้าด้วย จะคิดค่าธรรมเนียมปีละ 300.- สำหรับสมาชิก Citi Priority และ Citigold ฟรีค่าธรรมเนียม[size=[^_^]]ตารางเปรียบเทียบ 4 บัตรแบบจัดเต็ม[/size]
* ค่าธรรมเนียมถอนเงินในต่างประเทศของบัตร Krungthai Travel Card จะคิดเป็นสกุลเงินของประเทศที่ทำรายการ แต่แปลงค่าเงินเป็นเงินบาทแล้วจะประมาณ 100 บาท
เปรียบเทียบข้อมูลแต่ละบัตร มีอะไรน่าสนใจบ้าง?
-บัตร Planet SCB และ Krungthai Travel Card เป็นบัตรเติมเงินเหมือนกัน ถ้าจะใช้ต้องเติมเงินเข้าไปในบัตรก่อน ลักษณะคล้ายกับ E-Wallet
-บัตร Planet SCB สามารถสแกน QR Code ด้านหลังบัตร เพื่อเติมเงินเข้าบัตร โดยใช้แอปของธนาคารอื่นได้ด้วย ไม่จำเป็นต้องเป็น SCB Easy App เท่านั้น
-บัตร TMB All Free และ Citibank Debit Mastercard มีลักษณะคล้ายๆ กัน คือเป็น "บัตรเดบิต" ผูกกับบัญชีออมทรัพย์ไว้ สามารถถอนเงินสดจากบัญชีเงินฝากได้ด้วย
-บัตร Citibank Debit Mastercard จะรูดใช้จ่ายต่างประเทศได้ ก็ต้องเปิดบริการ "Citibank Global Wallet" ก่อน แล้วเปิดบัญชีสกุลเงินนั้นๆ โอนเงินเข้าไปตามที่ต้องการ โดยเรทค่าเงินก็จะเป็นไปตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ เวลานั้น
-บัตร TMB All Free เป็นบัตรเพียงใบเดียว ที่ไม่ต้องแลกเงินเป็นสกุลเงินที่จะใช้จ่ายก่อนทำรายการ สามารถใช้บัตรเดียวรูดได้เลยทุกประเทศทั่วโลก โดยระบบจะแปลงเป็นสกุลเงินนั้นให้อัตโนมัติตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันและเวลาที่ทำรายการ
-บัตร Citibank Debit Mastercard เป็นบัตรเพียงใบเดียวที่เป็น Mastercard ส่วนบัตรอื่นๆ จะเป็น VISA หมดเลย แต่ทุกบัตรมีคุณสมบัติรองรับการจ่ายแบบแตะบัตร VISA payWave และ Mastercard Contactless ทั้งหมด
![](http://postto.me/211/t_dln.jpg)
บัตรไหนอัตราแลกเปลี่ยนดีที่สุด? อันนี้ตอบไม่ได้จริงๆ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาเลย ไม่มีบัตรไหนที่สุดเสมอไป
แต่จากตารางก็พอบอกได้ว่าควรใช้บัตรไหนดีน้าาา~
[size=[^_^]]ปันโปรสรุปให้[/size]
-ทั้ง 4 บัตรรูดเมืองนอกในบทความนี้ จะไม่คิดค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลค่าเงิน เรียกว่าอัตราแลกเปลี่ยนของแต่ละแบงก์เป็นยังไง ก็ใช้เรทนั้นได้เลยจ้า
-แต่ละบัตรจะมีเงื่อนไขในการรูดใช้จ่ายที่แตกต่างกันนะ บางบัตรอาจจะต้องเติมเงินเข้าไปในบัตร แล้วแลกเป็นสกุลเงินที่เราต้องการก่อนถึงจะรูดได้ แต่บางบัตรแค่เอาเงินเข้าบัญชี ก็สามารถรูดได้เลย อย่าลืมศึกษาข้อมูลของบัตรให้ดีก่อนด้วยนะจ๊ะ
-เช็คอัตราแลกเปลี่ยนบ่อยๆ จะทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่าเราควรแลกเงินช่วงไหน ถ้าค่าเงินกำลังลง ก็รีบกดแลกทิ้งไว้ก่อนเลย จะทำให้มีความคุ้มค่ามากที่สุด
-มีข่าวแว่วๆ มาว่าจะมีอีกธนาคารจะเปิดตัวบัตรสำหรับรูดนอกด้วย แต่ตอนนี้ยังเงียบๆ อยู่เลย ถ้ามีอัปเดตยังไง จะรีบมาบอกเลยจ้า!ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก เว็บ ปันโปร