ผู้เขียน หัวข้อ: ศัลยกรรมความงาม เสริมหน้าอก เสริมจมูก กล้ามเนื้อตา ทำตาสองชั้น Jarem Clinic  (อ่าน 876 ครั้ง)

ออฟไลน์ wm5398

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 471
    • ดูรายละเอียด
2 ข้อ ควรรู้ให้จริง ก่อนศัลยกรรม เสริมหน้าอก


“หน้าอก หรือทรวงอก” เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่นิยมทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกกันมาก เพราะหน้าอกคืออวัยวะส่วนที่แสดงความเป็นตัวตนของเพศหญิงได้อย่างชัด รวมทั้งการมีรูปร่างได้สัดส่วนมีส่วนเว้าส่วนโค้งสวยสมส่วน นอกจากทำให้ง่ายต่อการแต่งตัวแล้วยังเป็นการเสริมบุคลิกภาพให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น ส่วนใครที่กำลังคิดจะเสริมหน้าอกแต่ยังกล้าๆ กลัว ๆ บทความนี้มี 2 ข้อ ควรรู้เกี่ยวกับการศัลยกรรมเสริมหน้าอก มาแนะนำค่ะ

2 ข้อ ควรรู้ให้จริง ก่อนศัลยกรรม เสริมหน้าอก


การผ่าตัดเสริมเต้านม เป็นศัลยกรรมเกี่ยวกับความสวยความงามที่คนนิยมทำอยู่ในอันดับต้น ๆ และไม่เฉพาะผู้หญิงเท่านั้นที่ต้องการเสริมหน้าอกโดยมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไปตามความต้องการของแต่ละบุคคล สาวประเภทสองหรือเพศที่สามที่มีรูปร่างเป็นชายแต่จิตใจเป็นหญิงก็นิยมผ่าตัดเสริมหน้าอก เพื่อแสดงความเป็นตัวตนของเพศหญิง ทำให้ปัจจุบันมีคลินิกศัลยกรรมเสริมหน้าอกเปิดให้บริการอยู่มากมาย แต่การศัลยกรรมที่จะเสริมสร้างความมั่นใจทั้งในเรื่องความปลอดภัย และความสวยงามของหน้าอก มีสิ่งที่ต้องรู้ให้จริงก่อนศัลยกรรม ดังนี้

1.การเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอก และการตรวจร่างกาย
เมื่อตัดสินใจหรือเริ่มวางแผนผ่าตัดเสริมหน้าอก หลาย ๆ คนอาจเตรียมความพร้อมของตัวเองเป็น
อย่างดี ทั้งการเตรียมร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรง การศึกษาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งวิธีดูแลตนเองหลังจากผ่าตัดเสริมหน้าอกมาแล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีและถูกต้องแต่เพื่อให้การเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอก เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่าย เราแบ่งการเตรียมตัวออกเป็น 2 ขั้นตอน ได้แก่ การเตรียมความพร้อมของตนเองก่อนการศัลยกรรม และการเตรียมความพร้อมตามคำแนะนำของแพทย์
      1. การเตรียมความพร้อมของตนเองก่อนการศัลยกรรมเสริมหน้าอก
              - เตรียมความพร้อมด้านจิตใจ การเตรียมใจก่อนศัลยกรรมหน้าอก ได้แก่เตรียมใจยอมรับความเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่จะเกิดขึ้นหลังการศัลยกรรมหน้าอก ลดหรือควบคุมจิตใจไม่ให้วิตกกังวล และไม่เครียด โดยเฉพาะก่อนการทำศัลยกรรม ความเครียดอาจส่งผลให้ความดันสูง จนไม่สามารถทำการศัลยกรรมหน้าอกได้
              - เตรียมความพร้อมด้านร่างกาย ศัลยกรรมเสริมหน้าอกเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องเตรียมร่างกายและดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รวมทั้งรู้ความต้องการรู้จุดประสงค์ของตนเองก่อนเป็นสิ่งแรก เช่น ต้องการศัลยกรรมเสริมขนาดหน้าอกเพื่อเสริมบุคลิกภาพ ศัลยกรรมเสริมหน้าอกเพื่อแสดงความเป็นตัวตนของตนเองอย่างชัดเจน ศัลยกรรมเพื่อประโยชน์สำหรับการทำงานที่ต้องเน้นรูปร่างและการแต่งกาย หรือศัลยกรรมหน้าอกเพื่อแก้ไขปัญหาความผิดปกติของหน้าอก
              - เตรียมความพร้อมด้านข้อมูลข่าวสาร การผ่าตัดเสริมหน้าอกแม้จะมีคลินิกหรือสถานเสริมความงามให้บริการอยู่มากมาย แต่ความปลอดภัยและการศัลยกรรมที่ผลลัพธ์ออกมาดี ได้ขนาดหน้าอกที่เหมาะสมกับรูปร่าง หรือแก้ปัญหาความผิดปกติของหน้าอกได้ตามความต้องการ การเตรียมความพร้อมด้านข้อมูลข่าวสารสำคัญมาก เช่น ข้อมูลของสถานเสริมความงามหรือคลินิกที่ให้บริการ ขนาดที่ต้องการเสริมให้เหมาะกับโครงสร้างของร่างกาย ประเภทและความแตกต่างของซิลิโคนแต่ละประเภท เป็นต้น
              - เตรียมความพร้อมด้านค่าใช้จ่าย หัวใจสำคัญของการผ่าตัดเสริมหน้าอก นอกจากการเตรียมพร้อมด้านค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการผ่าตัดซึ่งก็ไม่ยุ่งยาก เพราะคลินิกส่วนใหญ่มีเรทราคาที่เป็นมาตรฐานให้ลูกค้าได้เลือกอยู่แล้ว แต่ส่วนที่หลายคนอาจไม่ได้จัดเตรียมหรือวางแผนไว้ล่วงหน้าได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการดูแลตนเองหลังจากผ่าตัดเสริมหน้าอก เนื่องจากต้องหยุดงานหรือหยุดการทำธุรกิจเพื่อพักฟื้น
      2. การเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอกตามคำแนะนำของแพทย์ตรวจร่างกาย ขนาดทรวงอก และลักษณะเต้านมทั้งสองข้าง
              - ตรวจเลือด ต้องไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอันตรายกับการผ่าตัด
              - เอกซเรย์ปอด
              - ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจตามเกณฑ์
              - งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนการผ่าตัดเสริมหน้าอก อย่างน้อย 1 สัปดาห์
              - ก่อนผ้าตัดเสริมหน้าอกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ให้งดสูบบุหรี่ หรือหยุดกินยาที่มีส่งผลกระทบต่อโรคความดันโลหิต เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
              - หยุดกินวิตามินอี น้ำมันตับปลา สมุนไพร และ[^_^]ทุกชนิดก่อนการผ่าตัดเสริมหน้าอกอย่างน้อย 1 สัปดาห์
              - วันที่แพทย์นัดก่อนผ่าตัดต้องงดน้ำและอาหาร 12 ชั่วโมง
              - กรณีกำลังจะมีประจำเดือนในช่วงที่ต้องผ่าตัด ควรกินยาเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากการผ่าตัดหน้าอกมีการเสียเลือดมาก
              - วันที่แพทย์นัดผ่าตัดเสริมหน้าอก ควรอาบน้ำ สระผมมาให้เรียบร้อย
              - ในวันผ่าตัดและออกจากโรงพยาบาลหลังการผ่าตัด ควรสวมเสื้อที่มีกระดุมหน้าแบบหลวม ๆ เพื่อให้สวมใส่ได้สะดวกโดยไม่ต้องยกแขน และควรจัดเตรียมไว้สวมใส่ขณะพักฟื้นด้วย
              - ก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอก ควรเตรียมลูกอม หรือสิ่งของที่มีรสเปรี้ยว เนื่องจากคนที่แพ้ยาชาหรือยาสลบ หลังการผ่าตัดอาจมีอาการคลื้นไส้ และอาเจียน การอมลูกอมหรือของเปรี้ยวช่วยลดอาการได้ และยังช่วยให้ไม่กระทบกระเทือนแผลผ่าตัดอีกด้วย

2.วิธีดูแลตัวเองหลังทำนมหรือผ่าตัดเสริมหน้าอก
ในการผ่าตัดเสริมหน้าอก แพทย์จะมีหลายเทคนิควิธีซึ่งแต่ละวิธีก็ยังขึ้นอยู่กับขนาดของซิลิโคน ประเภทของซิลิโคน ตำแหน่งในการวางซิลิโคนหน้าอก และปัจจัยส่วนบุคคลซึ่งจะแตกต่างกันออกไป ทำให้การดูแลตนเองหลังผ่าตัดเสริมหน้าอกมีแนวทางแตกต่างกันออกไปด้วย ตัวอย่างเช่น แพทย์เลือกใช้เทคนิคผ่าตัดที่เสียเลือดน้อย เวลาในการพักฟื้นก็จะไม่นาน ส่วนการดูแลตนเองหลังทำนมหรือผ่าตัดเสริมหน้าอกที่ควรรู้ มีดังนี้
      1. การดูแลแผลผ่าตัด
              - ภายในสัปดาห์แรกหลังจากผ่าตัดเสริมหน้าอก ควรระมัดระวังและป้องกันไม่ให้แผลผ่าตัดโดนน้ำ
              - ระยะพักฟื้นควรสวมเสื้อติดกระดุมหน้าทรงหลวม ๆ เพื่อช่วยให้สวมใส่ง่ายและไม่ต้องยกแขน ช่วยลดอาการเจ็บปวดได้ดี
              - หากมีอาการปวดแผล ให้กินยาลดอาการปวด เช่น กินยาแก้ปวดทุก 6 ชม. กินยาต่อเนื่อง 1 เม็ด หลังอาหาร เช้า-กลางวัน-เย็น หรือกินตามคำแนะนำของศัลยแพทย์
              - การดูแลแผลผ่าตัดที่ยังมีอาการปวด ให้นอนศีรษะสูงเพื่อช่วยลดอาการบวมแน่น
              - หลีกเลี่ยงการใช้แขนหรือออกแรงมาก เนื่องจากบริเวณหน้าอกจะเป็นส่วนที่อยู่ใกล้แขนการออกแรงมากจะยิ่งทำให้แผลหายช้า และแผลผ่าตัดมีโอกาสอักเสบได้
              - หลังผ่าตัดวันแรก สามารถประคบเย็นได้ตั้งแต่กลับถึงบ้านและประคบได้นาน 7-10 วัน ข้อดีได้แก่ ช่วยลดอาการตึงของหน้าอก บรรเทาอาการปวด ลดความเขียวช้ำ และช่วยให้อาการบวมยุบได้เร็ว
              - การผ่าตัดเสริมหน้าอก ไหมที่เย็บแผลแพทย์จะใช้เป็นไหมละลายซึ่งต้องใช้เวลาในการสลายตัวประมาณหกถึงแปดสัปดาห์ หากหลังจากนั้นยังพบว่ามีไหมโผล่อย่าพยายามดึงออกเอง ควรโทรนัดหรือปรึกษาแพทย์เพื่อสะกิดเอาไหมออก
              - พบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจเช็คแผลผ่าตัด โดยทั่วไปแพทย์จะนัดเพื่อเปิดดูแผลประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังผ่าตัด
      2. การดูแลหน้าอกหลังใส่ซิลิโคนหลังผ่าตัดเสริมหน้าอกควรนอนให้ถูกท่า โดยช่วง 3 วันแรกนอนหงายรองศีรษะให้สูง เพื่อช่วยลดอาการบวม ช่วง 7 วัน ถึง 6 สัปดาห์ ให้นอนหงายห้ามนอนตะแคงหรือนอนคว่ำหน้า เพราะอาจจะทำให้หน้าอกบิดเบี้ยวผิดรูปทรงได้
              - หลังจากศัลยกรรมเสริมหน้าอกแพทย์จะพันผ้าไว้ และให้สวมซัพพอร์ตบรา ควรเลือกซัพพอร์ตบราที่ออกแบบมาสำหรับเคสที่เสริมหน้าอกเท่านั้น เพื่อพยุงให้หน้าอกอยุ่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และช่วยป้องกันซิลิโคนลอย
              - หลังผ่าตัดเสริมหน้าอก ควรหลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อในที่มีโครงอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงการกดทับหรือกระแทกบริเวณหน้าอก
              - นวดหน้าอกตามคำแนะนำของแพทย์ เนื่องจากการนวดหน้าอกจะช่วยให้หน้าอกนิ่ม ไม่แข็ง ไม่ทำให้เกิดพังผืด เมื่อสัมผัสมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น
              - การดูแลในระยะยาวหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก ควรหมั่นตรวจเช็กหน้าอกด้วยตัวเองและตรวจแมมโมแกรมตามกำหนด
      3. การดูแลอื่น ๆ หลังศัลยกรรมเสริมหน้าอก
              - การพักฟื้นอยู่บ้านควรมีเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวอยู่ด้วยตลอดเวลา เพื่อช่วยเหลือรวมทั้งเฝ้าดูอาการหลังการผ่าตัด
              - 1-2 วันแรกหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก ให้ดื่มน้ำดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้ให้มาก ๆ ควรหลีกเลี่ยงหรืองดดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เนื่องจากจะทำให้ฟื้นตัวช้า
              - เลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเกลือ หรือมีรสเค็มในช่วงสัปดาห์แรกเพราะอาจทำให้มีอาการบวมมากขึ้น
              - หลังผ่าตัดเสริมหน้าอก ช่วงพักฟื้นควรพักผ่อนให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
              - ช่วงสัปดาห์แรก งดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการสูดควันบุหรี่จากคนอื่นเช่นกัน
      4. ภาวะหรือผลข้างเคียงหลังผ่าตัดเสริมหน้าอกที่ต้องรีบไปพบแพทย์
              - หลังจากผ่าตัดเสริมหน้าอก เมื่อกลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้วยังมีไข้สูงไม่ลด ควรรีบไปพบแพทย์เพราะอาจอักเสบหรือแผลติดเชื้อ
              - หลังกลับมาพักฟื้นที่บ้าน ยังมีเลือดสดออกมากที่บริเวณแผลผ่าตัด
              - แผลผ่าตัดมีอาการบวมแดงอย่างรวดเร็วและเห็นได้ชัด ปวดแผลมากขึ้นทานยาแก้ปวดแล้วอาการไม่ลดลง
              - หลังผ่าตัดหรือช่วงพักฟื้น มีของเหลวจากร่างกายออกมาตามแนวแผลผ่าตัด
อ่านเพิ่มเติม  https://jarem.co.th/know-before-breast-augmentation/

ออฟไลน์ wm5398

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 471
    • ดูรายละเอียด
4 ข้อ ควรรู้หลังศัลยกรรมเสริมหน้าอก

เชื่อว่าทุกคนที่สนใจและมีการวางแผนผ่าตัดเสริมหน้าอก ก่อนศัลยกรรมจะต้องศึกษาข้อมูลต่าง ๆ มาแล้วเป็นอย่างดีทั้งการเลือกคลินิกที่ให้บริการ ขนาดหน้าอก ประเภทของซิลิโคน ค่าใช้จ่าย และการดูแลตนเองให้พร้อมสำหรับการผ่าตัดเสริมหน้าอก ซึ่งนอกจากศึกษาข้อมูลด้วยตนเองแล้วยังขอรับคำแนะนำจากคลินิกหรือศัลยแพทย์ได้ด้วย ส่วนในบทความนี้เรามี 4 ข้อควรรู้หลังศัลยกรรมเสริมหน้าอก มาแนะนำให้เป็นความรู้ค่ะ

4 ข้อ ควรรู้หลังศัลยกรรมเสริมหน้าอก
หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก แพทย์จะมีคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีดูแลตนเอง แต่อาการและปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากศัลยกรรมเสริมหน้าอกของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไป การดูแลก็จะต้องปรับเปลี่ยนไปตามอาการและตามปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากศัลยกรรมหน้าอก ดังนี้

อาการหลังเสริมหน้าอก 1 เดือน
หลังศัลยกรรมเสริมหน้าอก ในระยะแรก ๆ อาการและการดูแลตนเอง อาจเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น อาการปวด บวม ช้ำ หรือเลือดซึม การดูแลตนเองอย่างดีตามคำแนะนำของแพทย์ รวมทั้งใช้เวลาพักฟื้น 1-2 เดือน อาการก็จะค่อยๆ ดีขึ้นจนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ส่วนอาการของแต่ละบุคคลหลังเสริมหน้าอก 1 เดือนอาจจะแตกต่างกันไป โดยปกติแล้วอาการหลังศัลยกรรมเสริมหน้าอกในแต่ละช่วง อาจมีอาการ ดังนี้
1. อาการหลังการผ่าตัดจนได้รับอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้
           - การศัลยกรรมเสริมหน้าอก เป็นการผ่าตัดที่ต้องวางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ หลังจากผ่าตัดควรพักฟื้นที่โรงพยาบาล 1 คืน หากไม่มีอาการผิดปกติและผู้ที่ผ่าตัดไม่สะดวกที่จะนอนพักฟื้นในโรงพยาบาล หลังผ่าตัดแล้วควรพักไม่น้อยกว่า 3-4 ชั่วโมง หลังจากนั้นศัลยแพทย์จะอนุญาตให้กลับบ้านได้
2. อาการช่วงพักฟื้นระยะ 3-5 วันแรก
           - หลังผ่าตัดเสริมหน้าอกและกลับมาพักฟื้นที่บ้าน ระยะ 3-5 วันแรกจะยังมีอาการปวด บวม ช้ำ และรู้สึกระคายเคืองมาก เนื่องจากร่างกายยังไม่ชินกับสภาพใหม่ของเต้านม ในบางคนอาจมีเลือดซึมออกจากแผลเป็นระยะทำให้รู้สึกปวด หากมีเลือดออกมากผิดปกติ ควรพบแพทย์หรือปรึกษาแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด สำหรับการดูแลตนเองต้องกินยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวมาก ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้แผลผ่าตัดกระทบกระเทือน
3. อาการหลังจากผ่าตัดได้ 1 สัปดาห์
           - หลังผ่าตัดเสริมหน้าอกได้ 1 สัปดาห์ อาการปวด บวม ช้ำ และอาการระคายเคืองจะเริ่มลดลง แม้จะจะยังมีอาการปวดบวมอยู่บ้าง แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ควรระมัดระวังไม่ทำกิจกรรมหนักๆ ที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวมาก ๆ อย่างน้อย 3 สัปดาห์
4. อาการหลังจากผ่าตัดได้ 1 เดือน
           - โดยทั่วไปอาการหลังผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกจะเริ่มเป็นปกติหรือเกือบปกติ เมื่อร่างกายได้ฟื้นฟูเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1-2 เดือน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการดูแลตนเองของแต่ละบุคคล หลังจากนั้นภายใน 2-3 เดือนร่างกายและเต้านมจะเริ่มเข้าที่และใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ควรตรวจเช็กความผิดปกติอย่างสม่ำเสมอจนกว่าซิลิโคนจะหมดอายุการใช้งาน

ปัญหาที่พบได้หลังเสริมหน้าอก
ศัลยกรรมหน้าอกนอกจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ ยังเป็นการศัลยกรรมเพื่อนำซิลิโคนหรือเต้านมเทียมใส่เข้าไปในร่างกาย ปัญหาที่พบหลังเสริมหน้าอกจึงเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบและหลายลักษณะมีทั้งอาการผิดปกติที่ต้องรีบพบแพทย์และความผิดปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ ถือเป็นเรื่องปกติของการศัลยกรรมหน้าอก ดังนี้

1. อาการผิดปกติหลังผ่าตัดเสริมหน้าอกที่ต้องพบแพทย์
          - หลังผ่าตัดเสริมหน้าอก หรือระยะพักฟื้นมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก หรือหายใจหอบถี่
          - อาการบวมไม่ลดลง มีอาการแสบร้อนและมีรอยแดงบริเวณเต้านม รวมทั้งมีไข้สูงอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
          - อาการปวดผลผ่าตัดที่เกิดขึ้นเรื้อรัง เป็น ๆ หาย ๆ หรือแผลหายสนิทแล้วแต่ยังคงรู้สึกปวดอยู่
          - ปวดหลังและไหล่อย่างรุนแรง รอยแผลเขียวช้ำและมีเลือดคั่งผิดปกติ
          - สังเกตความผิดปกติของซิลิโคนที่อาจเคลื่อนหรือหมุนจนได้ หรือเต้านมแข็งผิดปกติ
          - มีตุ่มหรือก้อนแข็งบริเวณเต้านม หรือหน้าอก อาจเกิดจากซิลิโคนรั่ว
          - บริเวณใต้รักแร้มีก้อนแข็ง อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกความผิดปกติของต่อมน้ำเหลือง

2. อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นหลังเสริมหน้าอกและหายได้เอง
          - ปัญหาปวดแผลหลังผ่าตัด เป็นอาการปกติของทุกคนที่ศัลยกรรมเสริมหน้าอก โดยจะมีอาการประมาณ 3 – 4 สัปดาห์แรกหลังการศัลยกรรม ซึ่งเป็นช่วงพักฟื้น จากนั้นอาการจะเริ่มเป็นปกติ
          - รู้สึกปวดร้าวไปถึงหัวไหล่และหลัง โดยเฉพาะแผลผ่าตัดที่ใต้รักแร้มักปวดมากกว่า และหายช้ากว่าแผลที่หัวนมหรือใต้ราวนม เนื่องจากมีการเสียดสีของซิลิโคนที่เสริมเข้าไปมีขนาดใหญ่
          - รู้สึกคันรอบ ๆ เต้านมหรือคันบริเวณแผลผ่าตัด ถือเป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากการเสริมซิลิโคนเข้าไป ทำให้ผิวหนังบริเวณเต้านมตึงและมีอาการคัน โดยอาการคันจะค่อย ๆ หายไปเองภายใน 1 – 2 สัปดาห์
          - อาการชาที่เต้านมหลังศัลยกรรม เป็นอาการชาที่เกิดขึ้นและหายได้เองภายใน 1 เดือน ส่วนในคนผ่าตัดเสริมซิลิโคนขนาดใหญ่เกินไป ถุงซิลิโคนก็อาจไปกดทับเส้นประสาททั้งหมดจนทำให้สูญเสียความรู้สึกและมีอาการชาซึ่งอาจเป็นไปตลอดระยะเวลาในการเสริมหน้าอก

หลังเสริมหน้าอกควรนอนท่าไหนดี
ปัญหาที่หลาย ๆ คนสงสัยหรือมักมีคำถามหลังจากศัลยกรรมเสริมหน้าอกมาแล้วก็คือ หลังเสริมหน้าอกควรนอนท่าไหนดี สามารถนอนในท่าปกติที่เคยนอน เช่น นอนคว่ำ นอนตะแคง หรือนอนหงาย ได้หรือไม่ สำหรับท่านอนที่เหมาะสมของคนที่ผ่าตัดเสริมหน้าอก ศัลยแพทย์จะให้คำแนะนำ ดังนี้
          - ในช่วงอาทิตย์แรกหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก ท่านอนที่เหมาะสมคือการนอนหงาย ควรนอนให้ลำตัวส่วนบนสูงประมาณ 30-45 องศา โดยใช้หมอนรองหลัง 2-3 ใบ เพื่อให้ถุงเต้านมอยู่กับที่และรักษาแผลผ่าตัดให้หายได้เร็ว สามารถลุกนั่งได้ง่ายช่วยป้องกันแผลเกิดภาวะตึงหรือว่าเกิด Stretch ที่แผลทำให้เกิดการอักเสบได้ นอกจากนั้นการนอนให้หัวสูงจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น และช่วยให้อาการบวมที่หน้าอกลดลง
          - ระยะพักฟื้นระหว่าง 7- 30 วันขึ้นไป ควรนอนหงาย เนื่องจากการนอนตะแคงหากหน้าอกยังไม่เข้าที่ นอกจากทำให้มีอาการเจ็บแล้ว หากนอนตะแคงนาน ๆ จะทำให้เกิดแรงดันต่อซิลิโคน ทำให้ซิลิโคนพลิกได้
          - หลังผ่าตัดเสริมหน้าอก จึงควรสวมใส่ Post-op Bra ล็อกนมไว้ตลอดการนอน โดยเฉพาะในช่วง1-2 เดือนแรก และควรใส่ Post-opบราไว้ตลอดแม้ในช่วงเวลาปกติด้วย

หลังเสริมหน้าอกกี่วัน ถึงจะนอนตะแคงได้
หลังจากผ่าตัดเสริมหน้าอก การดูแลตัวเองหลังเสริมหน้าอกให้ดีที่สุดก็คือการรักษารูปทรงของหน้าอกโดยการนอนในท่าที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ซิลิโคนเคลื่อนตัว สำหรับการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ ทำได้ ดังนี้
          - หากเป็นการผ่าตัดเสริมหน้าอกทางราวนม ช่วง 3 เดือนซึ่งเป็นระยะพักฟื้นไม่ควรนอนคว่ำ เพราะอาจเป็นอันตรายทำให้ไหมละลายที่เย็บไว้หลุดก่อนกำหนดหรือทำให้เกิดแผลกดทับได้
          - ส่วนการนอนตะแคง กรณีผ่าตัดเสริมหน้าอกทางรักแร้ หลังผ่าตัด 3 สัปดาห์หากไม่มีอาการเจ็บแผลก็สามารถนอนตะแคงได้
          - การนอนคว่ำ ต้องรอให้อาการอักเสบของกล้ามเนื้อลดลงก่อน อาจใช้เวลาหลังผ่าตัดเสริมหน้าอกอย่างน้อย 2 เดือน

ศัลยกรรมเสริมหน้าอก ถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่นอกจากต้องเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมก่อนการผ่าตัดเป็นอย่างดีแล้ว การดูแลตนเองหลังผ่าตัดเสริมหน้าอกก็สำคัญและจำเป็น โดยเฉพาะคนที่ใช้วิธีการผ่าตัดเสริมซิลิโคนศัลยแพทย์จะให้ดมยาสลบก่อนผ่าตัด แต่หากเป็นการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน ศัลยแพทย์อาจใช้วิธีฉีดยาชาเฉพาะที่เท่านั้น แต่ไม่ว่าจะผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยวิธีการใด ทั้ง 4 ข้อควรรู้หลังศัลยกรรมเสริมหน้าอก คือแนวทางการรักษาตัวเองหลังทำศัลยกรรมหน้าอกให้ปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนและได้รูปทรงหน้าอกที่สวยเป็นธรรมชาติตามที่ต้องการ
https://jarem.co.th/know-after-breast-augmentation/

ออฟไลน์ wm5398

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 471
    • ดูรายละเอียด
สิ่งที่ควรกิน และอาหารต้องห้ามหลังศัลยกรรมเสริมหน้าอก


หน้าอก นอกจากเป็นสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งที่แสดงออกถึงความเป็นเพศหญิง ผู้หญิงส่วนใหญ่ยังต้องการมีรูปร่างที่สมส่วน ศัลยกรรมเสริมหน้าอกให้มีขนาดตามที่ต้องการ จึงกลายเป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เชื่อว่าช่วยให้มีรูปร่างสมส่วน เซ็กซี่ ดูดี และสร้างความมั่นใจในการแต่งตัว เมื่อศัลยกรรมเสริมหน้าอกเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ทำได้ ในบทความนี้เรามาดูกันว่าหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก ควรดูแลตจนเองอย่างไร อะไรควรกิน และอาหารต้องห้ามมีอะไรบ้าง

ศัลยกรรมเสริมหน้าอก และการดูแลตนเอง
การดูแลตนเองหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก แพทย์จะให้คำแนะนำในหลาย ๆ ด้าน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเป็นสาเหตุของภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายหรือส่งผลให้หน้าอกที่เสริมเข้าไปไม่ได้รูปทรงตามที่ต้องการ การดูแลด้านโภชนาการคือการดูแลสุขภาพหลังผ่าตัดเสริมหน้าอกที่จะช่วยฟื้นฟูร่างกายให้ฟื้นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าควรกินอะไร และอาหารอะไรที่ต้องห้าม ดังนี้'
1.อาหารที่ควรกินหลังศัลยกรรมหน้าอก
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการศัลยกรรมหน้าอกก็คือแผลผ่าตัด การกินอาหารที่มีประโยชน์จึงนอกจากช่วยฟื้นฟูบำรุงร่างกายแล้ว ยังช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น โอกาสในการติดเชื้อก็น้อยลง ช่วยให้เห็นผลลัพธ์จากการศัลยกรรมได้เร็ว ทำให้มีรูปร่างที่สมส่วน มีส่วนเว้าส่วนโค้ง แต่งตัวได้ง่ายและเพิ่มความมั่นใจในบุคลิกภาพของตนเองมากขึ้น อาหารที่ควรกินหลังศัลยกรรมหน้าอก ได้แก่
        - อาหารอ่อน ๆ : หลังผ่าตัดเสริมหน้าอก ช่วงระยะพักฟื้น 1-3 วันแรก ควรกินอาหารอ่อน ๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊กอาหารประเภทตุ๋น หรือนึ่ง จะช่วยให้ง่ายต่อการกลืนและย่อยง่าย สามารถฟื้นฟูร่างกายหลังผ่าตัดเสริมหน้าอกได้เป็นอย่างดี
        - การทานไข่ : ไข่ เป็นเมนูอาหารที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าเป็นอาหารต้องห้ามสำหรับการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกหรือผ่าตัดอื่น ๆ เนื่องจากมีความเชื่อว่าจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นนูนขึ้นมา ที่เรียกว่า แผลคีลอยด์หรือทำให้แผลหายยาก แต่ในความเป็นจริงไข่เป็นแหล่งโปรตีนที่มีส่วนช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอหลังการผ่าตัด และจำเป็นต่อการสร้างเนื้อเยื่อและผิวหนังใหม่ที่ช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้น การกินไข่หลังศัลยกรรมหน้าอก จึงเป็นการเสริมโปรตีนให้กับร่างกาย
        - เนื้อสัตว์ : เมนูอาหารที่ปรุงด้วยเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู ไก่ ปลา และอาหารทะเล อุดมไปด้วยโปรตีนสารอาหารที่ช่วยช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย สมานแผล ช่วยสร้างผิวหนังและเนื้อเยื่อใหม่ให้แข็งแร
        - นม และผลิตภัณฑ์จากนม : นม และผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นมพร่องมันเนย โยเกิร์ต หรือนมขาดมันเนย มีโปรตีนที่เป็นองค์ประกอบของเซลล์และเอนไซม์ ในระบบภูมิคุ้มกันซึ่งทำหน้าที่ทำลายสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรค ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดแผลติดเชื้อ และยังช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย แต่ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม
        - อาหารที่มีไฟเบอร์สูง : อาหารที่มีไฟเบอร์ หรือมีกากใยอาหารสูง มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย ช่วยป้องกันอาการท้องผูกที่อาจส่งผลกระทบต่อแผลผ่าตัด และยังจำเป็นต่อการรักษาแผลผ่าตัด รวมทั้งช่วยในการฟื้นตัวจากการผ่าตัด แหล่งอาหารที่มีไฟเบอร์ ได้แก่ ข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต รำข้าวโพด ผักต่าง ๆ ถั่วงอก กระหล่ำปลี มะเขือเทศ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี เมล็ดถั่วเปลือกแข็ง เผือก มัน และขนมปังโฮลวีท ผักบุ้งไทย ใบกุยช่าย ใบชะพลู สะเดา กระเจี๊ยบเขียว ผักหวาน แครอท ถั่วเขียว ฝรั่ง แอปเปิล ถั่วลิสง งา เมล็ดทานตะวัน และอื่น ๆ
        - ผลไม้ที่ให้วิตามินซี : ผลไม้โดยเฉพาะกลุ่มที่มีวิตามินซีสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยให้ผู้ที่ผ่าตัดเสริมหน้าอก มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ช่วยให้เซลล์เนื้อเยื่อมีการเจริญเติบโตเชื่อมต่อผสานกันได้ดี ลดอาการบวมช้ำ และมีส่วนช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ผลไม้ที่ควรรับประทาน เช่น
                   - แอปเปิ้ล เป็นผลไม้ที่นอกจากมีวิตามินซีสูง กินแล้วช่วยลดอาการอักเสบและสมานแผลผ่าตัดให้หายเร็วขึ้น ยังมีเส้นใยอาหารอยู่จำนวนมาก ช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายลดปัญหาท้องผูกได้เป็นอย่างดี
                   - ส้ม ผลไม้ที่มีรสหวานอมเปรี้ยว นอกจากกินแล้วช่วยให้รู้สึกสดชื่น ยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารและวิตามินซี ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก รวมทั้งมีแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยในการสร้างเซลล์ใหม่ซึ่งช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น มีสารต้านอนุมูลอิสระและสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วงพักฟื้นหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก ควรกินส้มวันละ 2-4 ผล โดยกินสลับกับผลไม้ชนิดอื่นด้วย
                   - สตรอว์เบอร์รี่และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ส่วนใหญ่เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงโดยวิตามินซีในสตรอเบอรี่และผลไม้ตระกูลนี้ มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งทำให้ผิวเกิดการยืดหยุ่น และแผลเกิดการสมานกันได้ดีมากขึ้น
                   - ทับทิม ผลไม้ที่นอกจากทานสด ๆ แล้วยังสามารถนำไปคั้นเป็นน้ำผลไม้ช่วยลดการอักเสบของแผลผ่าตัดได้ดี แก้อาการอ่อนเพลีย ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
                   - มะละกอสุก ผลไม้ที่หาง่ายและราคาไม่แพง แต่คุณประโยชน์มากมายมีทั้งวิตามินซีและวิตามินเอสูงมาก กินแล้วจะทำให้แผลผ่าตัดหายเร็ว ช่วยกระตุ้นการแบ่งเซลล์ในกระบวนการสร้างผิวหนังใหม่ และยังช่วยป้องกันแผลติดเชื้อได้อีกด้วย

2.อาหารต้องห้ามหลังศัลยกรรมเสริมหน้าอก
การผ่าตัดใด ๆ รวมทั้งการศัลยกรรมเสริมหน้าอก สิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นก็คือรอยแผลเป็นซึ่งพฤติกรรมการบริโภคมีผลต่อการดูแลรักษาแผลหลังศัลยกรรม เนื่องจากอาหารหลายชนิดเป็นสิ่งต้องห้ามหรือควรหลีกเลี่ยง เพราะมีผลต่อภาวะแทรกซ้อนหรือทำให้แผลเกิดการอักเสบและหายยาก เช่น
         1. ผลไม้ที่มีรสหวาน : ผลไม้ แม้จะมีเส้นใยและวิตามินที่เป็นประโยยชน์ต่อสุขภาพ แต่ผลไม้หลายชนิดที่มีรสหวาน ก็เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหรือเป็นผลไม้ต้องห้ามสำหรับการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอก เช่น
                   - ขนุน นอกจากเป็นผลไม้ที่มีรสหวานจัดแล้ว ยังถือเป็นอาหารแสลงสำหรับการผ่าตัดเสริมหน้าอก เนื่องจากกินแล้วอาจทำให้ท้องอืด เพราะแม้จะมีเส้นใยจำนวนมากแต่ย่อยยาก
                   - น้อยหน่า ผลไม้ที่ควรหลีกเลี่ยงเพราะนอกจากมีรสหวานจัดแล้ว ยังส่งผลทำให้เซลล์ผิวสมานได้ยาก ทำให้แผลหายยากและเสี่ยงต่อการอักเสบได้ง่าย
         2. ผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อนใน : หลังผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอก ในช่วงระยะพักฟื้นควรดูแลร่างกายให้แข็งแรงป้องกันอาการเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นได้ การรับประทานผลไม้บางชนิดที่มีฤทธิ์ร้อนใน แม้จะไม่ส่งผลโดยตรงต่อการผ่าตัดเสริมหน้าอก แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงเพราะอาการร้อนในจากการทานผลไม้อาจทำให้ป่วยไข้ได้ เช่น
                   - ทุเรียน ผลไม้ยอดนิยมนอกจากมีฤทธิ์ร้อนแล้ว ยังมีธาตุอาหารสูง การกินผลไม้ชนิดนี้ใรระยะพักฟื้นอาจทำให้เจ็บป่วยจากภาวะร้อนในได้
                   - ลำไย นอกจากเป็นผลไม้รสหวานจัดแล้ว ยังทราบกันดีว่าเป็นผลไม้ฤทธิ์ร้อน บางคนกินเพียงเล็กน้อยก็ทำให้มีอาการร้อนใน และอาจทำให้เกิดความเจ็บป่วยได้
                   - ละมุด เป็นผลไม้ที่มีรสหวานจัด แต่คนส่วนใหญ่อาจไม่รู้ว่าเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อนด้วย การกินผลไม้ชนิดนีอาจทำให้มีอาการร้อนในและเป็นสาเหตุทำให้มีอาการเจ็บป่วยได้
         3. ผลไม้แปรรูปและของหมักดอง : ผลไม้แปรรูป เช่น ผลไม้ดอง ผลไม้แช่อิ่ม และของหมักดองต่าง ๆ นอกจากมีความเค็มทำให้แผลมีอาการบวมได้แล้ว หากขั้นตอนการทำไม่สะอาดอาจส่งผลให้แผลผ่าตัดติดเชื้อได้ ช่วงระยะพักฟื้นและแผลยังไม่หายดีควรงดเว้นหรือหลีกเลี่ยงไปก่อนอาหารรสจัด :                    - อาหารรสจัด เช่น เผ็ดจัด หรือเป็นเมนูอาหารที่มีส่วนประกอบของเครื่องเทศสมุนไพร ที่ให้รสชาติร้อนแรง เมื่อกินแล้วความเผ็ดร้อนจะไปกระตุ้นร่างกายให้มีการหลั่งเหงื่อ และ น้ำมูก ออกมาซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะไปปนเปื้อนกับเชื้อโรคต่าง ๆ และสัมผัสกับบริเวณบาดแผลจนทำให้แผลอักเสบได้
                   - ส้มตำและอาหารประเภทยำ : ส้มตำและอาหารประเภทยำ เป็นเมนูอาหารเรียกน้ำย่อยหรืออาหารรสแซบที่มีส่วนประกอบของความเผ็ด ความเค็ม และความเปรี้ยว รวมไปถึง ปลาร้า หรือน้ำปลาร้า ควรหลีกเลี่ยงหรืองดเว้นไปก่อน เพราะการกินอาหารรสจัดอาจทำให้เกิดการคั่งของสารน้ำภายในร่างกาย ส่งผลให้แผลบวมและเสี่ยงต่อการอักเสบได้
                   - เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ : เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถือเป็นสิ่งที่ควรงดเว้นหรือหลีกเลี่ยง เพราะการดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้แผลหายช้า และทำให้เกิดอาการบวมเขียวช้ำได้ง่าย

3.คำถามเกี่ยวกับการกินและข้อห้ามที่พบได้บ่อย
สำหรับสิ่งที่ควรกินและอาหารต้องห้ามหลังศัลยกรรมเสริมหน้าอก ที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในช่วงพักฟื้นหรือจนกว่าแผลผ่าตัดจะหายแล้ว ยังมีคำถามและข้อสงสัยเกี่ยวกับการกินและข้อห้ามที่แพทย์หรือคลินิกความงามมักจะต้องให้คำแนะนำแก่ผู้เข้ารับกับการผ่าตัดเสมอ ๆ ก็คือ
         1. หลังเสริมหน้าอกสามารถกิน[^_^]ได้ไหม
                   - ปกติการกิน[^_^]ใด ๆ ศัลยแพทย์มักจะแนะนำให้หยุดกินก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอก เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากวิตามินและ[^_^]บางตัวจะมีผลกับการผ่าตัดเสริมหน้าอก เช่น ทำให้การปิดบาดแผลของระบบเลือดทำงานได้ช้าลง ส่งผลให้เลือดไม่ยอมแข็งตัว ซึ่งอาจเกิดอาการบวมช้ำนานกว่าคนอื่น ๆ
                   - สำหรับการกิน[^_^]ต่าง ๆ เช่น วิตามิน แปะก๊วย โสม น้ำมันปลา วิตามินอี หรือวิตามินบำรุงผิวพรรณ หรือ[^_^]ประเภทพืชสมุนไพร หากหลังศัลยกรรมเสริมหน้าอกไปแล้วก็สามารถกินได้ตามปกติ
                   - ส่วนคอลลาเจล ซึ่งถือเป็น[^_^]ชนิดหนึ่ง ที่ทำหน้าที่เพิ่มความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่อวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย มีบางรายงานทางการแพทย์ระบุว่า การกินคอลลาเจลหลังผ่าตัดเสริมหน้าอกมีส่วนทำให้เกิดพังผืด แม้ข้อมลจะยังไม่แน่ชัด แต่ก็ควรงดไปเลยหรือรอกินคอลาเจลหลังจากผ่าตัด 3 เดือน ขึ้นไป
         2. หลังเสริมหน้าอกสามารถกินยา[^_^]ได้ไหม
                   - ยา[^_^] ถือเป็น[^_^]ชนิดหนึ่งแต่มีหลายรูปแบบและหลายประเภท สำหรับคำถามหลังเสริมหน้าอกสามารถกินยา[^_^]ได้ไหม ในทางปฏิบัติ[^_^]มีข้อห้ามว่าควรงดเว้นช่วงก่อนผ่าตัดเท่านั้น เนื่องจากอาจมีผลทำให้เลือกแข็งตัวช้า ส่วนหลังจากผ่าตัดเสริมหน้าอกแล้ว ก็สามารถกิน[^_^]ได้ตามปกติ ยาลดความอ้วนก็ถือเป็น[^_^]ชนิดหนึ่ง แต่น้ำหนักตัวที่ลดและเพิ่มขึ้นก็สามารถส่งผลกระทบกับหน้าอกคู่ใหม่ได้ สิ่งที่ผู้ผ่าตัดเสริมหน้าอกควรพิจารณาประกอบว่าควรกินหรือไม่กิน มี 3 ข้อ ดังนี้
อ่านเพิ่มเติม  https://jarem.co.th/eat-after-breast-augmentation/

ออฟไลน์ wm5398

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 471
    • ดูรายละเอียด
บอกลานมแข็งเป็นหิน เสริมหน้าอกใหม่กับหมอหลุยส์ | Jarem clinic

สวัสดีค่ะ ชื่อปอนด์นะคะ วันนี้จะมา รีวิวการแก้ไขหน้าอกที่ Jarem Clinic ค่ะ

ปัญหาหลังทำครั้งแรกค่ะ ก็คือเป็นบล็อกค่ะแล้วก็หน้าอกแตกลายค่ะ ประมาณ 3 ปีที่แล้วค่ะ ข้างนึง 325 ข้าง 350 cc ค่ะ เพราะว่าหมอท่านเดิมบอกว่ามันไม่เท่ากันอะค่ะ ทำไม่กี่ปีแล้วก็แข็งค่ะ

แล้วก็มันเริ่มที่จะแข็งหลังจากทำมาประมาณไม่ถึงปีอะค่ะ ไม่เป็นทรงด้วยค่ะแล้วก็ไม่เท่ากันค่ะ เป็นพังผืดอะค่ะ รู้สึกผิดหวังค่ะ แล้วก็จิตตก ใส่เสื้อผ้าไม่มั่นใจค่ะ

ก็ครั้งแรกนะคะที่เสริมคือเป็นการเสริมที่ใช้ยาเบลออะค่ะ ไม่ใช่ยาสลบค่ะ แล้วก็รู้สึกว่ามันทรมานค่ะ คือเรารู้สึกตัวแต่ว่าแบบเราไม่สามารถตอบโต้อะไรได้

หาคลินิกใหม่เพื่อแก้หน้าอกครั้งนี้ดูจาก Youtube ค่ะแล้วก็เพื่อนแนะนำมาด้วยค่ะ แล้วก็ดูรีวิวแล้วเห็นว่าทรงสวยดีค่ะ ก็เลยน่าสนใจ ก็เลยแบบเข้ามาดูค่ะ


แล้วดูคุณหมอที่เป็นศัลยแพทย์เฉพาะทางแล้วก็เห็นว่าเป็นติดอันดับค่ะ แล้วก็คุณหมอหลุยส์ไม่มีเคสหลุดด้วยค่ะ แล้วก็เห็นว่าคลินิกนี้มีวิสัญญีแพทย์เฉพาะทางค่ะ แล้วก็รู้สึกปลอดภัยอะค่ะ

ก็คือหนูเป็นพังผืดระดับที่ 3 แล้วค่ะ คือมันมีทั้งหมด 4 ระดับค่ะ คือระดับที่ 3 ก็คือมันจะเริ่มรู้สึกแข็งค่ะ เป็นหินอย่างเงี้ยค่ะ ก็คือจะแก้ด้วยการเลาะพังผืดเดิมออกค่ะ แล้วก็ใส่ซิลิโคนใหม่ค่ะ แล้วก็แก้จากเหนือกล้ามเนื้อเป็นใต้กล้ามเหนืออะค่ะ
คุณหมอหลุยส์บอกว่าให้ใส่ซิลิโคนได้ 355 cc เท่ากันทั้งสองข้างค่ะ ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ


ค่ะ ก็หลังจากที่เสริมที่นี่นะคะ รู้สึกว่าฟื้นตัวเร็วกว่าเดิมค่ะ มากกว่ารอบแรกค่ะ คือดีกว่าที่คิดอะค่ะ รู้สึกชิลล์แบบไม่กี่วันก็สามารถเดินห้างได้เลยอะค่ะ
ก็คือความแตกต่างนะคะ จากที่แรกค่ะ รู้สึกว่าพี่แอดมินไม่ค่อยมีความใส่ใจเราอะค่ะ ไปพบคุณหมอที่นั่นได้ตรวจ เจอคุณหมอแค่รอบเดียวค่ะ หลังจากนั้นก็คือมีแต่พี่พนักงานที่ดูแล

มาที่ Jarem พี่แอดมินเค้าใส่ใจดูแลดีมากค่ะ เจอคุณหมอทุกรอบค่ะ แล้วก็ถามเราละเอียดค่ะ แบบใส่ใจรายละเอียด คอยถามตลอดว่าเออ เป็นอย่างไรบ้างอะไรแบบนี้ค่ะ คอยแนะนำถามไถ่เราแล้วก็ห้ามกินอะไรอะไรแบบนี้ค่ะ อย่างเช่น ห้ามกินแอลกอฮอล์ ห้ามกินของหมักดอง แล้วก็ห้ามยกของหนักค่ะ

ค่ะ ฝากถึงทุกคนที่ กำลังหาคลินิกเสริมหน้าอกหรือว่าแก้ไขหน้าอกนะคะ แนะนำที่ Jarem Clinic ค่ะ เพราะว่าคุณหมอและพี่แอดมินมีความใส่ใจค่ะ รับรองไม่ผิดหวังค่ะ
https://jarem.co.th/reviews-breast-augmentation-26/

ออฟไลน์ wm5398

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 471
    • ดูรายละเอียด
อาการชา และรอยเขียวช้ำหลังเสริมหน้าอก เกิดจากอะไร


ศัลยกรรมเสริมหน้าอก เป็นการผ่าตัดที่ต้องดูแลและเตรียมความพร้อมของร่างกายตั้งแต่ก่อนผ่าตัดและยังต้องดูแลตนเองหลังผ่าตัดเป็นอย่างดี เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องใช้เวลาพักฟื้นอย่างน้อย 1-2 เดือนจึงจะกลับมาทำกิจกรรมได้ตามปกติ อาการชา และรอยเขียวช้ำเป็นอาการหนึ่งที่เกิดขึ้นได้หลังศัลยกรรมเสริมหน้าอก สาเหตุเกิดจากอะไร บทความนี้มีความรู้มาแนะนำค่ะ

อาการและผลข้างเคียงหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก

อาการและผลข้างเคียงหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก
หลังผ่าตัดเสริมหน้าอก จะมีอาการและผลข้างเคียงที่เกิดจากการศัลยกรรมทั้งในระยะสั้นที่อยู่ในช่วงพักฟื้นและอาการในระยะยาว เมื่อมีอาการเกิดขึ้นหลายคนมักกังวลว่าอาการแบบไหนกันแน่ที่ผิดปกติ และกังวลเกรงจะส่งผลต่อรูปทรงของเต้านม ซึ่งอาการและผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังผ่าตัดเสริมหน้าอกของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ที่พบได้บ่อยมี ดังนี้
         1. มีอาการปวดและแผลบวม ซึ่งเป็นอาการปกติหลังการผ่าตัดทุกชนิด เพราะเมื่อเนื้อเยื่อได้ถูกกระทำก็จะทำให้มีอาการปวดบวมได้ โดยทั่วไปอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์หลังการผ่าตัด และคุณหมออาจสั่งยากลุ่ม Arnica ให้กินเพื่อช่วยลดอาการบวม
         2. ในบางคนอาจมีเลือดหรือของเหลวอื่น ๆ ไหลออกมาจากรอยแผลผ่าตัด หากมีอาการในช่วง 1-3 วันแรกหลังผ่าตัด ถือเป็นอาการปกติที่อาจเกิดขึ้นได้และจะค่อย ๆ ดีขึ้น กรณีมีเลือดออกมากผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษา
         3. มีอาการคลื่นไส้อาเจียน เป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นในบางคนเท่านั้น เป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากการดมยาสลบ แพทย์อาจให้กินยาลดอาเจียนก็สามารถช่วยให้ผู้ที่มีอาการเหล่านี้ดีขึ้น
         4. อาการคันบริเวณแผลผ่าตัด เป็นอาการปกติของแผลผ่าตัดทุกชนิด เนื่องจากการกระทบกระเทือนของเส้นประสาทรับความรู้สึก มักเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 2 หลังการผ่าตัดและจะดีขึ้นเองภายใน 1-2 สัปดาห์
         5. อาการคันบริเวณรอบ ๆ เต้านม เกิดจากการที่ผิวหนังตึงเพราะมีการเสริมซิลิโคนหรือเต้านมเทียมเข้าไป ทำให้ผิวหนังบริเวณหน้าอกตึงใสจากการบวมและจากยาชาที่ฉีดขณะที่ทำการผ่าตัด และโดยทั่วไป อาการบวมตึงจะลดลงภายใน 2-3 สัปดาห์ ผิวหนังบริเวณนั้นจะดูปกติและเป็นธรรมชาติ เพื่อบรรเทาอาการคันและลดอาการตึงของผิวหนัง สามารถใช้โลชั่นทาผิวเพื่อลดอาการตึงแต่อย่าให้ถูกแผลผ่าตัด รวมทั้งใช้วิธีประคบเย็นก็ช่วยให้อาการดีขึ้นได้
         6. อาการหัวนมหรือบริเวณเต้านมไวต่อความรู้สึก หรือมีความรู้สึกลดน้อยลง ซึ่งอาการจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล อาจเกิดจากปลายประสาทได้รับความเสียหาย โดยปกติอาการหัวนมหรือบริเวณเต้านมไวต่อความรู้สึก และในบางคนอาจความรู้สึกลดน้อยลง ไม่ใช่อาการที่น่ากังวลใจ เพราะส่วนใหญ่จะค่อยๆ ดีขึ้นจนหายได้เอง
         7. มีอาการปวดร้าวที่แขนหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก ปกติอาการปวดจากการผ่าตัดเสริมหน้าอกอาจแตกต่างกันไปตามภาวะของแต่ละบุคคล และขึ้นอยู่กับตำแหน่งของแผลผ่าตัด เช่น
                - การผ่าตัดใต้กล้ามเนื้อจะมีอาการปวดมากกว่าเหนือกล้ามเนื้อ
                - แผลผ่าตัดที่อยู่บริเวณรักแร้จะทำให้ปวดมากกว่าแผลที่อยู่ที่หัวนมหรือใต้ราวนม
                - ส่วนวิธีดูแลเมื่อมีอาการปวดร้าวที่แขนหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก ในช่วงนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลแพทย์อาจใช้ยากลุ่ม มอร์ฟีน เพื่อระงับอาการปวด และช่วงพักฟื้นที่บ้านสามารถใช้ยาแก้ปวดกลุ่มพาราเซตามอล ร่วมกับยาแก้ปวดอื่นได้ โดยทั่วไปอาการปวดจะดีขึ้นในช่วง 2-3 วัน นอกจากนั้นอาจแกไขโดยการประคบน้ำอุ่นร่วมกับการกินยาแก้ปวดและงดการเคลื่อนไหวที่รุนแรง
         8. มีอาการเจ็บแปลบๆ ในบางตำแหน่ง อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้หลังศัลยกรรมเสริมหน้าอก เนื่องจากการผ่าตัดอาจกระทบกระเทือนเส้นประสาทรับความรู้สึก หากมีเพียงอาการเจ็บแปลบ ๆ หลังจากพักฟื้นอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้น แต่กรณีที่มีอาการปวดและมีการบวมแดงหรือเขียวช้ำควรกลับมาให้แพทย์ตรวจโดยทันที
         9. เกิดรอยแผลเป็นหรือรอยแผลเป็นนูน ศัลยกรรมเสริมหน้าอกอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้แต่ในบางรายหลังผ่าตัดเสริมหน้าอกแล้วอาจเกิดแผลเป็นนูนที่เห็นริ้วรอยได้อย่างชัดเจน การแก้ไขรอย แผลเป็นทำได้หลายวิธีแพทย์อาจแนะนำยาที่ช่วยลดปัญหาแผลเป็น เช่น วิตามิน E ฮีลูดอยด์ สเตียรอยด์ รวมทั้งการนวดบริเวณแผลเป็น ก็เป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้แผลนิ่มและแบนลง ช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็นที่เป็นรอยนูนได้
         10. อาการอัดอัดและแน่นหน้าอก หลังศัลยกรรมเสริมหน้าอกเมื่อผ่านระยะพักฟื้นหรือแผลเริ่มหายดี และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่บางคนอาจรู้สึกอึดอัดแน่นหน้าอก อาการเหล่านี้เกิดขึ้นได้เนื่องจากยังไม่ชินกับซิลิโคน
         11. ผิวหนังบริเวณหน้าอกมีรอยเหี่ยวย่น ปัญหานี้มักเกิดกับคนที่มีรูปร่างอ้วนหรือน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน เมื่อผ่าตัดเสริมหน้าอกแล้วมีน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว หรือมีการ[^_^] เมื่อเวลาผ่านไปผิวหนังบริเวณหน้าอกอาจมีรอยเหี่ยวย่นมากกว่าปกติ แม้จะเอาซิลิโคนหรือเต้านมเทียมออกก็ไม่สามารถช่วยได้
         12. ขนาดหน้าอกไม่เท่ากัน โดยทั่วไปเต้านมข้างซ้ายและข้างขวาจะมีรูปร่างแตกต่างกันเสมอตั้งแต่ก่อนผ่าตัด หลังการผ่าตัด การหายของแผลแต่ละข้างก็จะแตกต่างกันโดยที่ข้างหนึ่งเจ็บแต่อีกข้างหนึ่งจะไม่รู้สึกเจ็บ หรือข้างหนึ่งอาจบวมกว่าอีกข้างหนึ่ง แต่หลังจากแผลหายสนิทแล้วทั้งสองข้างจะดูใกล้เคียงกันและเป็นธรรมชาติ


อาการชาหลังเสริมหน้าอก เกิดจากอะไร
อาการชาหลังเสริมหน้าอก ก็เป็นอีกภาวะหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ลักษณะการชาคือจะรู้สึกชาที่หัวนม ซึ่งอาการในแต่ละบุคคลก็จะแตกต่างกันออกไป ผู้ที่ผ่าตัดเสริมหน้าอกบางรายอาจมีอาการชาที่หัวนมเพียงข้างเดียวในขณะที่บางคนมีอาการชาทั้งสองข้าง โดยอาการเหล่านี้เป็นภาวะที่เกิดการยืดขยาย เกิดการบาดเจ็บและการบอบช้ำต่อเส้นประสาทที่มาเลี้ยงความรู้สึกของหัวนม ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนอย่างหนึ่งของการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก แต่ไม่เป็นอันตรายต่อท่อน้ำนมหรือส่วนอื่น ๆ และอาการมักดีขึ้นเองลักษณะและอาการชาที่หัวนม

อาการชาหัวนมที่เกิดขึ้นชั่วคราว
        - หลังศัลยกรรมเสริมหน้าอกอาจเกิดอาการชาที่หัวนมหรือบริเวณเต้านมได้ แต่เป็นอาการที่เกิดขึ้นไม่นานและสามารถหายเป็นปกติได้เมื่อพักฟื้นอย่างเพียงพอ ส่วนสาเหตุหลัก ๆ เกิดจากการกระทบกระเทือนเส้นประสาทที่อยู่ใกล้เคียงกันซึ่งเกิดขึ้นจากการผ่าตัดแต่เส้นประสาทเหล่านั้นสามารถเชื่อมต่อกันได้เอง
        - อาการชาหัวนมถาวร อาการเหล่านี้จะมีลักษณการชาที่หัวนมหรือบริเวณเต้านมเช่นเดียวกับอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราว แต่อาการชาจะไม่หายไปและจะเป็นอย่างถาวร เนื่องจากขณะผ่าตัดเสริมหน้าอก เกิดการกระทบกระเทือนเส้นประสาทที่แยกห่างออกจากกันมาก จนไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้เอง

อาการชาที่หัวนมเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง
อาการชาหัวนมหรือชาบริเวณเต้านมที่เกิดขึ้นหลังจากผ่าตัดเสริมหน้าอก ทั้งเกิดขึ้นชั่วคราวสามารถหายได้เองหลังจากพักฟื้นอย่างเพียงพอ และอาการชาหัวนมถาวร นอกจากมีสาเหตุหลัก ๆ มาจากการกระทบกระเทือนของเส้นประสาทที่อยู่ใกล้เคียงกันและแยกห่างออกจากกันมาก ๆ แล้ว ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
        - การเสริมซิลิโคนหรือเต้านมเทียมที่มีขนาดใหญ่เกินไป
        - เกิดจากการผ่าตัดที่ส่งผลกระทบกระเทือนต่อเส้นประสาทที่มาเลี้ยงหัวนม
        - เกิดจากการผ่าตัดเสริมซิลิโคนเข้าทางปานนม
        - เกิดจากการผ่าตัดเสริมซิลิโคนในตำแหน่งเหนือกล้ามเนื้อ
อ่านเพิ่มเติม  https://jarem.co.th/ruising-after-breast-augmentation/

ออฟไลน์ wm5398

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 471
    • ดูรายละเอียด
เสริมหน้าอก ทำนม อยู่ได้กี่ปี Jarem Clinic


ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องของผู้หญิงและหน้าอกเป็นสิ่งที่อยู่เคียงคู่กัน นอกจากหน้าตาที่ช่วยเสริมเสน่ห์ให้แก่สาวๆ แล้ว การที่มีรูปร่างและสัดส่วนที่เข้ารูปและสวยงามก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของผู้หญิงเกือบทุกคน อีกทั้งการที่มีหน้าอกที่พอดีและเหมาะสม ได้รูปและมีขนาดตามที่ต้องการยังสามารถช่วยส่งเสริมการสวมใส่เสื้อผ้าให้ออกมาดูดีและสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ก็มีทางเลือกในการเพิ่มเสน่ห์ให้กับเรือนร่างและหน้าอก นั่นก็คือ การทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกหรือ ทำนม ที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมมาอย่างยาวนาน แต่แน่นอนว่าการทำศัลยกรรมไม่ใช่เรื่องที่สามารถตัดสินใจได้ง่ายมากนัก ต้องมีการศึกษาข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของอายุการใช้งานและการหมดอายุของซิลิโคนหน้าอกที่ทำให้คนมีข้อสงสัยว่าจะอยู่ได้กี่ปี ต้องเปลี่ยนตอนช่วงเวลาไหน สามารถใช้งานได้ตลอดชีวิตหรือไม่ เราจะพาคุณไปหาคำตอบเพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมตัว เสริมหน้าอก ทำนม กัน

การเสริมหน้าอก ทำนม คืออะไร?
การเตรียมความพร้อมในการศัลยกรรมเสริมหน้าอก หรือ Breast Augmentation เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยวัตถุประสงค์ในการ ทำนม หรือ ผ่าตัดเสริมหน้าอก ก็มีอยู่หลายเหตุผล เช่น ปัญหาเรื่องหน้าอกหย่อนคล้อย, หน้าอกมีขนาดเล็ก, ปัญหาหน้าอกไม่เท่ากัน อีกทั้งในปัจจุบันนี้การเสริมหน้าอกยังสามารถผ่าตัดได้ในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่จำเป็นต้องตัดเต้านมออก ในรายที่รักษาหายขาดแล้วก็สามารถใช้การผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกเข้ามาเป็นตัวช่วยในการเสริมหน้าอกให้กลับมาเท่ากันตามปกติ

การผ่าตัดทำนม เป็นการศัลยกรรมที่มีการพัฒนาสูงด้วยปัจจัยทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องของหน้าอกได้อย่างแท้จริง อีกทั้งยังปลอดภัยและทำได้อย่างง่ายดาย โดยความหมายตรงตัวของการทำศัลยกรรมหน้าอก คือการผ่าตัดเพื่อเพิ่มขนาดหน้าอก รวมถึงการเสริมหน้าอกให้มีรูปทรงที่ดียิ่งขึ้น แก้ไขขนาด รูปทรงที่มีความผิดปกติ ปัญหาเต้านมหย่อนคล้อย นั่นเอง

เสริมหน้าอก ทำนม หมดอายุได้หรือไม่?
หลังจากที่เราทำความรู้จักเกี่ยวกับความหมายและรายละเอียดของการศัลกยรรมเสริมหน้าอกแล้ว เรื่องของอายุการใช้งานก็เป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจเช่นเดียวกันว่าซิลิโคนในการเสริมหน้าอกสามารถอยู่ได้นานหรือไม่ โดยเราจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ นั่นคือ อายุการใช้งานของ ตัวถุง และ สารที่อยู่ภายในถุงซิลิโคน ซึ่งในกรณีที่เป็นตัวถุงซิลิโคน หรือ ตัวซิลิโคน นั้นมีอายุการใช้งานที่ยืนยาวมากกว่าอายุคนและสามารถคงสภาพได้อย่างยาวนานมาก

สำหรับ สารที่อยู่ในตัวถุงซิลิโคน หรือ ซิลิโครเจล  ที่จะเป็นสารที่บรรจุไว้ภายในถุงและมีคุณสมบัติในการสามารถจับตัวกัน ไม่กระจายตัว โดยซิลิโคนที่ถูกเสริมเขาไปยังมีอายุที่ยืนยาวมาก อย่างไรก็ตาม อัตราการรั่วไหลของซิลิโคนในทุกยี่ห้อจะมีอายุการใช้งานราวๆ 10 ปี ต่อ 10% ทำให้ในหลายคนที่ทำศัลยกรรมหน้าอกมักจะเกิดปัญหาด้านการแข็งตัว รูปร่างของเต้านมที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่มาจากผู้เสริมหน้าอกในด้านของพฤติกรรมและการใช้ชีวิตประจำวัน

โดยก่อนหน้านั้น หลายๆ คนอาจจะได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการศัลยกรรมหน้าอก ว่าควรมีการเปลี่ยนซิลิโคนในทุกๆ ระยะเวลา 10 ปี เนื่องจากการเสื่อมสภาพจากที่กล่าวไปข้างต้นจากปัญหาการรั่วซึมของซิลิโคน อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวก็ลดน้อยลงอย่างมากเนื่องจากการพัฒนาของซิลิโคนที่มีความทันสมัยและใช้เทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมาปรับเปลี่ยนจนทำให้เกิดมาตรฐานที่ดียิ่งกว่าเดิม อีกทั้งยังผ่านการรับรองและมีการันตีอย่างถูกต้องถึงการใช้งานที่ไม่มีวันหมดอายุ ถ้าหากไม่เกิดปัญหาใด ผู้เสริมหน้าอกสามารถที่จะใช้ชีวิตตามปกติไปได้ตลอดชีวิตนั่นเอง

กล่าวได้ว่า การเสริมหน้าอก ทำนม อยู่ได้กี่ปี ก็ต้องบอกเลยว่าสามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต เนื่องจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและซิลิโคนที่ดียิ่งกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม ผู้เสริมหน้าอกควรมีการหมั่นตรวจสอบเกี่ยวกับหน้าอกตนเองอยู่เสมอ รวมถึงการเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอก ทำนม ว่าควรจะเลือกซิลิโคนที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานที่ดีที่สุด สำรวจเกี่ยวกับรูปทรง ขนาดซิลิโคนที่เหมาะสม และถ้าหากเกิดสิ่งผิดปกติใดในการเสริมหน้าอกก็ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเร่งด่วน

การดูแลตัวเองหลังเสริมหน้าอกให้ซิลิโคนอยู่ยาวนาน
หลังจากที่เราสามารถรู้คำตอบได้แล้วว่า เสริมหน้าอก ทำนม อยู่ได้กี่ปี จะเห็นได้ว่าสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาอายุการใช้งานของซิลิโคนก็คือ การดูแลตนเองของผู้เสริมหน้าอก ที่แนะนำว่าควรสวมสปอร์ตบราหลังจากเสริมราวๆ 2 – 4 สัปดาห์ เพื่อที่จะช่วยให้หน้าอกเข้ารูปและพยุงซิลิโคนให้มีรูปทรงที่เหมาะสม นอกจากนี้หลังจากเสริมหน้าอย่างน้อย 2 – 4 สัปดาห์ ไม่ควรยกของหนัก หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องเผชิญกับแรงกระแทกและหนัก เช่น การกระโดด การว่ายน้ำหรือการวิ่ง เป็นต้น

และนี่ก็เป็นเรื่องราวควรรู้สำหรับการตัดสินใจเสริมหน้าอก ทำนม ว่าสามารถอยู่ได้กี่ปี มีวันหมดอายุหรือไม่ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจถึงหลักการเตรียมความพร้อม ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจและลดความกังวลในการศัลกยกรรมเสริมหน้าอก เพื่อให้การทำนมออกมาสมบูรณ์แบบ เข้ารูปและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดหล้งจากศัลยกรรมเสริมหน้าอกนั่นเอง
https://jarem.co.th/how-years-breast-augmentation-last/

ออฟไลน์ wm5398

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 471
    • ดูรายละเอียด
หางเครื่องสายแดนซ์ ทำนมเสร็จ รับทรัพย์รัวๆ | Jarem clinic

สวัสดีค่ะ ชื่อตัวเล็กนะคะ วันนี้มีนัดตรวจหน้าอกกับคุณหมอหลุยส์ที่ Jarem Clinic ค่ะ ก็ครบ 14 วันแล้วนะคะ
เป็นอาชีพแดนเซอร์ค่ะ ก็อยากเสริมให้ตัวเองมีรูปร่างสรีระที่สวยงามขึ้นแล้วก็มั่นใจกว่านี้อะค่ะ ก็เล็กมาก เล็กจนแบบว่าใส่ฟองน้ำนดันก็เท่าไหร่ก็ไม่ขึ้นเลยอะค่ะ ขาดความมั่นใจในการใส่ขุดแดนเซอร์ เวลาขึ้นเต้นมันแบบ ใส่แล้วมันแบบไม่เต็มชุด แบบเวลาเต้นก็จะแบบมีปัญหาแบบเสื้อในเบี้ยวอะไรอย่างเงี้ย ตอนเต้นอะไรอย่างเงี้ยอะค่ะ

ทำซิลิโคน Mentor อะค่ะ ไซซ์ 300 cc ค่ะ ผิวเรียบค่ะ คุณหมอประเมินให้ค่ะ
หาจากใน Google Youtube แล้วก็ใน Facebook ตามเพจด้วยค่ะ ใช่ค่ะ ดูทุกคลิปเลยค่ะ ดูวนจนครบ จนไม่มีอะไรให้ดูแล้วอะค่ะ


ก็แอบกลัวแล้วก็ตื่นเต้นอะค่ะ แบบว่ากลัวจะเจ็บไหมอะไรอย่างที่คนเค้าว่ากันว่าแบบสิบล้อทับอะไรอย่างเงี้ย ก็กลัว กลัวมากค่ะ


ขึ้นไปก็มีคุณหมอที่คอยให้ดมยาสลบก็แบบชวนคุย เราก็รู้สึกหายความกลัวนั้นลงค่ะ ใช่

ก็ตื่นมาก็ปกติ ไม่ ไม่.. ไม่เจ็บหน้าอก มีแอบง่วงนิดนึงค่ะ ไม่เวียนเลยค่ะ ใช้ชีวิตได้ปกติเลยค่ะ เดิน เดินได้ ทำอะไรได้ปกติ ไม่มีปัญหาค่ะ

คุณหมอก็แนะนำห้ามทานของแสลงพวกของหมักดองแล้วก็อาหารทะเล แล้วก็พวกแอลกอฮอล์อะไรพวกนี้อะค่ะ แล้วก็พวกบุหรี่ก็งดสูบ ช่วงแรก ๆ คุณหมอก็แนะนำให้นอน 45 องศา ช่วงแรก ๆ ก่อน ยังไม่แนะนำให้นอนราบ แล้วก็คุณหมอก็ห้ามยกของหนัก แล้วก็งดขับรถช่วงแรก แล้วก็งดเต้นออกกำลังกายไปก่อน ใช่ค่ะ งดรับงานค่ะ


ชีวิตหลังทำนมก็แบบดี ดีค่ะ เพื่อนรอบข้างในวงชมว่าหน้าอกสวยอะไรอย่างงี้ค่ะ เวลาเต้นก็ปัง จะได้ทิปเยอะกว่าเดิม ปกติที่ไม่มีหน้าอกได้เยอะอยู่แล้วแต่นี่คือทำให้ได้เยอะกว่าเดิมค่ะ เพราะว่ามีหน้าอกมา แบบใส่เสื้อผ้าแล้วจะสวยขึ้น ใหญ่ขึ้นอะไรอย่างเงี้ยค่ะ ดูเซ็กซี่
บราเก่า ๆ ก็โละทิ้งหมดเลย ยกตู้เลยอะค่ะ คือใส่ไม่ได้แล้ว รอซื้อใหม่อย่างเดียวค่ะ
รอบหน้าเดี๋ยวมาตรวจครบรอบ 1 เดือนแล้วเดี๋ยวจะเป็นยังไง เดี๋ยวจะมาอัปเดตให้เพื่อน ๆ ฟังอีกทีนะคะ
https://jarem.co.th/reviews-breast-augmentation-27/

ออฟไลน์ wm5398

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 471
    • ดูรายละเอียด
เสริมหน้าอก กับ Bikini สวยพร้อมลุยรึยัง? / Jarem clinic

ก็อย่างที่รู้ ๆ กันนะคะ Motiva เนี่ย มันมี 2 รุ่นใช่ไหม แต่ว่าหนูเนี่ยเลือก Ergonomix ซึ่งทำมาแล้วเวลาเพื่อนมาจับ เพื่อนก็จะแบบทำนมหรอ แต่นิ่มมากเหมือนนมจริงเลย
แล้วเพื่อนบางคนมาจับเค้าก็จะแบบไม่เหมือนนมทำเลย ซึ่งเรามีความรู้สึกว่า เออ เราคิดถูกแล้วที่เราทำหน้าอกที่นี่

สวัสดีค่ะ ชื่อมิเกลนะคะ มาเสริมหน้าอก Jarem Clinic ครบ 1 ปี 6 เดือนแล้วค่ะ มิเมื่อก่อนก็มีหน้าอกนะ แต่ใส่เสื้อผ้าแล้วดูไม่สวยอะ มันเป็นเหมือนก้อนไขมัน แล้วก็เวลาเราใส่เสื้อผ้าเว้า ๆ โชว์ ๆ เราก็ต้องแปะบราปีกนกที่มันเสริมหรือว่าดันขึ้นมาเพื่อให้เราใส่เสื้อผ้ามีความมั่นใจ ซึ่งมันก็ไม่สวยอยู่ดี

ก็อย่างที่รู้ ๆ กันนะคะ Motiva เนี่ย มันมี 2 รุ่นใช่ไหม แต่ว่าหนูเนี่ยเลือก Ergonomix เพราะว่ามันสัมผัสนุ่มแล้วก็ธรรมชาติ เหมือนนมจริงมาก ๆ เลย ซึ่งทำมาแล้วเวลาเพื่อนมาจับอย่างเงี้ย เพื่อนก็จะแบบทำนมหรอ แต่นิ่มมากเหมือนนมจริงเลย แล้วเพื่อนบางคนมาจับเค้าก็จะแบบไม่เหมือนนมทำเลย ซึ่งเรามีความรู้สึกว่า เออ เราคิดถูกแล้วที่เราทำหน้าอกที่นี่


ก็มีพี่ ๆ อะค่ะบอกปากต่อปากกันมาว่าหมอหลุยส์เนี่ย ทำนมเนี่ย นิ่มนะ แล้วก็แผลเล็กมาก แผลแทบไม่มีรอยแผลเป็นเลย คุณหมอเนี่ยใช้เทคนิคพิเศษในการทำหน้าอกให้เราค่ะ แล้วพี่เค้าก็บอกว่าถ้าใครมาทำที่นี่ หลังจากนั้นอะ งานจะปังมาก ซึ่งก็ปังจริง ๆ

คุณหมอเนี่ยเลือกไซซ์ให้ 355 cc แต่ว่ามิเกลเนี่ยชอบใส่เสื้อผ้า ชอบใส่บิกินี่หรือว่าเสื้อผ้าที่มันดูดูมดูมขึ้นมา คุณหมอก็เลยบอกว่าถ้า 375 เนี่ยก็พอดีนะ ไม่ตันแล้วก็ไม่อ้วนเกินไป ใส่แล้วดูออกมาสวยมาก

ก็ความรู้สึกตอนแรกนะคะ ที่ทำหน้าอกเนี่ย ตอนแรกกลัวมากแต่พอมาทำไปแล้ว มีความรู้สึก เอ๊ะ ให้ยาสลบ 15  วิ เราหลับไป แล้วเราตื่นมา เราก็มีหน้าอกสวย ๆ แล้ว
มีความรู้สึกว่าตึง ๆ แต่ไม่ได้ปวดจนแบบเราทนไม่ไหว แต่อันนี้คือลุก ลุกเดินได้เลย คือชิลล์มาก เป็นการเสริมหน้าอกที่สบายใจมากค่ะ

ก็ตั้งแต่ทำหน้าอกมานะคะ ใส่เสื้อผ้าตัวไหนก็สวย ใส่บิกินี่ก็มั่นใจมาก ๆ ไม่ว่าจะแบบ จะไปไหนอย่างเงี้ย เราก็มีความรู้สึกว่าเรามั่นใจเพราะว่า หนึ่ง หน้าอกเราสวย หุ่นเราดีขึ้น อ่า แล้วก็ที่ประทับใจ Jarem Clinic นะคะ หนึ่งคือคุณหมอใจดีค่ะ แล้วก็พี่พนักงานก็ดูแลเราดี แล้วก็ยังมีพี่แผนกอื่น ๆ นะคะ ที่คอยถามเรา เอ๊ย ทำนมไปแล้วเป็นยังไงบ้าง พี่เค้าก็ดูแลทุกจุดเลยค่ะ

ค่ะ สำหรับใครที่มีปัญหาอกเล็กหรืออกไม่สวย หรือหน้าอกไม่เท่ากัน หรือใส่เสื้อผ้าไม่มีความมั่นใจนะคะ ถ้าใครอยากมีหน้าอกสวยธรรมชาติเนี่ย ก็เข้ามาปรึกษากับคุณหมอหลุยส์ที่ Jarem Clinic ได้เลยค่ะ
https://jarem.co.th/reviews-breast-augmentation-28/

ออฟไลน์ wm5398

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 471
    • ดูรายละเอียด
พอทีกับตาปรือ มาแก้ “กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง” กับหมอยุ้ย|Jarem clinic

สวัสดีครับ ก็วันนี้มา Follow Up ตานะครับ กับคุณหมอยุ้ยนะครับผม ก็ครบ 30 วันแล้วครับ ครบ 1 เดือน ผมรู้ได้ยังไงว่าตัวเองเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนะครับ

ก่อนอื่นเลยคือเมื่อปีที่แล้วอะครับ ผมประสบอุบัติเหตุนะครับ รถชนครับ หน้ากระแทกพวงมาลัยนะครับ ก็คือดั้งหัก มันเป็นจุดสังเกตให้เราเริ่มโฟกัสที่หน้าเราว่าแบบว่า เฮ้ย ตาเรามันตก ทำไมมันตกมากขึ้นเรื่อย ๆ อะไรอย่างเงี้ยครับ แบบปิดตาดำมาครึ่งนึงอะครับ

แล้วทำไมผมถึงมาทำที่ Jarem Clinic นะครับผม Jarem Clinic นะครับ คุณหมอยุ้ยเป็นจักษุแพทย์ที่เกี่ยวกับเรื่องโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงระดับต้น ๆ เลยที่มันเด้งขึ้นมานะครับ ไม่ว่าจะเป็นออกข่าวช่อง 3 ไม่ว่าจะเป็นใน Youtube หรือในเพจนะครับ ก็คือที่ Jarem Clinic อะครับ เค้าจะมีรีวิวของผู้ชายอะครับ ให้เราดูเยอะมาก ผมก็เข้าไปดูแล้วแบบเห็นชั้นตาที่คุณหมอยุ้ยทำนะครับ แบบมันถูกใจเราเลย คือชั้นตาที่คุณหมอยุ้ยทำอะครับ มันธรรมชาติมาก ทำให้เราตัดสินใจว่าเราอยากทำกับหมอยุ้ยครับ

พอมาตรวจกับคุณหมอยุ้ย คุณหมอยุ้ยตรวจละเอียดมากครับ วัดหน้าเราทุกอย่าง ก็ ใช่ครับ เป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงตั้งแต่กำเนิดครับ แล้วก็นัดกับคุณหมอให้นัดวันผ่าตัดเลยครับผม

รุ่นพี่ที่ทำงานทักหรือว่าเพื่อนทักว่าแบบตาเรามันดูง่วงนอนตลอดหรืออะไรแบบนี้อะครับ หรือว่าแบบเหมือนตาขี้เกียจอะไรแบบนี้ครับ ก็เลยเข้ามาติดต่อคุยกับคุณหมอดูอะครับว่าทำยังไงได้บ้าง แล้วเราก็เป็นโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจริง ๆ แล้วเป็นมาตั้งแต่กำเนิดด้วยอะครับ อันนี้เป็นหลังผ่าตัดทันทีเลยนะครับผม
จากที่ตาดูหม่นหมอง ซึมเศร้า ก็คือตาสดใสมาก ดูเป็นคนละคนเลยครับ แล้วก็เดี๋ยวอีก 10 วัน เดี๋ยวผมจะมาอัปเดตให้อีกทีนึงนะครับ

ผ่านไปแล้ว 10 วันครับ วันนี้วันที่ 10 พอดีเลยครับ วันนี้ก็มาตัดไหมนะครับผม แผลสวยครับแล้วก็อาการบวมน้อยด้วย ตัดไหมวันนี้ไม่เจ็บเลยครับ สบายมาก คุณหมอมือเบามากครับ

คือก็ต้องงดไก่ งดไข่ แล้วก็งดของทอด ของมัน ของหวาน กินแต่แกงจืดกับโจ๊กครับ เพื่อแผลที่สวยครับ อดทน แล้วแผลก็สวยจริง ๆ ครับ

ระหว่าง 10 วันที่ทำมาก็มีลง Story IG บ้าง เพื่อนก็จะมีทักมาว่าแบบ เฮ้ย มัน มันดูดีขึ้นอะไรอย่างเงี้ยแบบ เฮ้ย มันดูสดใสขึ้นจริง ๆ อะไรอย่างงี้แบบมีแต่คนถามราคาเท่าไหร่ ราคาเท่าไหร่ เฮ้ย ถ้าสนใจอะ ก็มาได้อะไรประมาณนี้ ผมบอกว่ามันคุ้ม มันคุ้มจริง ๆ เพราะว่ามันดูดีขึ้นจริง ๆ ครับ เพราะว่าตอนแรกผมอะ ไม่อยากถอดแว่นเลย เพราะว่าใส่แว่นก็เหมือนแบบปกปิดความตาตกอะไรแบบนี้ แต่ตอนนี้ผมกล้าถอดแว่นแล้วครับ
มี Follow Up อีก 2 อาทิตย์ครับ ให้มาดูอีกทีนึง

มันสดใสมากขึ้น มันไม่ดูง่วง มันไม่ดูเป็นตาขี้เกียจ แล้วก็เราจะสังเกตได้เลยว่าแบบภาพมองของเราข้างหน้ามันกว้างขึ้นจริง ๆ อะครับ ผมพอใจมากครับ คุ้มมากกับที่มาทำที่นี่ครับ

ครับ แล้วก็อยากจะฝากถึงคนอื่นทุก ๆ คนนะครับ ลองสังเกตอาการของตัวเองดูนะครับว่าตัวเองอะครับ มีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงรึเปล่า หรือว่าถ้าสังเกตอาการตัวเองแล้วไม่รู้ว่าตัวเองเป็นรึเปล่า หรือว่าไม่รู้จะไปปรึกษาจักษุแพทย์ที่ไหนนะครับ ก็แนะนำมาที่ Jarem Clinic เลยครับ คุณหมอยุ้ย คอนเฟิร์มครับ ดีมาก
https://jarem.co.th/reviews-ptosis-surgery-21/

ออฟไลน์ wm5398

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 471
    • ดูรายละเอียด
เหตุผลที่นักการเงิน 500ล้าน รักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงกับหมอยุ้ย | Jarem clinic

สวัสดีค่ะ พี่นินะคะ นิภาพันธ์ พูนเสถียรทรัพย์ค่ะ พี่เป็นนักวางแผนการเงิน เป็นวิทยากรแล้วก็เป็นนักเขียนค่ะ

คือพี่มีเปลือกตาที่ตกอะค่ะ แต่ว่าตอนแรกพี่ก็ไม่รู้ว่าอันนี้เป็นอาการของโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ก็คิดว่าเป็นปกติของเรานะคะ พี่ก็เลยสนใจขึ้นมาว่า เอ๊ะ มันเป็นยังไงเจ้าโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงอะไรอย่างเงี้ยอะค่ะ แล้วก็พอดีประกอบกับช่วงนั้นเนี่ย พี่ก็จะมีอาการที่เวลาที่จ้องคอมพิวเตอร์นาน ๆ ค่ะ ก็จะปวดกระบอกตา แล้วก็บางวันที่ทำงานจนถึงดึก ๆ เนี่ย ก็จะมีอาการปวดหัวด้วย เออ อยากจะมาลองตรวจว่า ว่าไอที่เราเป็นอยู่เนี่ย เป็นโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงรึเปล่าค่ะ

ซึ่งเจ้าโรคนี้ก็จะมี 2 แบบ เป็นแบบตั้งแต่เกิดกับเป็นตามวัยนะคะ ของพี่เนี่ยเป็นตั้งแต่เกิด แล้วคุณหมอยุ้ยก็บอกว่าข้างซ้ายเนี่ยเป็นมากกว่าข้างขวา ซึ่งผลข้างเคียงของมันก็คือว่าถ้าเราปล่อยทิ้งไว้อะค่ะ เปลือกตาเค้าก็จะค่อย ๆ ตกมาเรื่อย ๆ แล้วก็จะบังลูกตา ก็ทำให้เรามีปัญหาในการมองเห็นนะคะ แล้วก็สิ่งที่เราปวดกระบอกตาเนี่ย อาจจะเป็นเพราะว่าร่างกายอะค่ะ เค้าพยายามแบบจะเปิดเปลือกตา

พี่ก็เลยมีการเกร็ง มีการยกคิ้วตลอดเวลา มัน มันก็เลยเกิดการเกร็งที่หน้าผาก ก็เลยส่งผลให้บริเวณหน้าผาก กระบอกตาอย่างเงี้ยค่ะ มีอาการปวดเมื่อยได้ค่ะ

คุณหมอก็เลยแนะนำว่าต้องผ่าตัดนะคะ ก็วันนั้นก็คุยกันเสร็จปึ๊บ พี่ก็ผ่าตัด ตัดสินใจผ่าตัด ก็ล็อกวันล็อกเวลาค่ะ กว่าจะเริ่มผ่าตัดเนี่ยก็บ่ายโมง เสร็จตอน 6 โมงเย็น เสร็จเกือบ 6 โมงเย็น ก็ใช้เวลาไปทั้งหมดเกือบ 5 ชั่วโมงนะคะ แล้วก็ กับอีกอันนึงก็คือว่าคุณหมอก็จะวัดขนาดอะค่ะ ก็เห็นถึงความละเอียดนะคะ ความใส่ใจนะคะ แล้วก็ตั้งอกตั้งใจผ่าเพื่อให้เราออกมาดูดีที่สุดค่ะ

ตอนที่ผ่าตัดเสร็จนะคะ ก็ยังต้องลงมาคุยกับคุณหมอนะคะ คุณหมอก็ให้ดูเปรียบเทียบก่อนผ่ากับหลังผ่านะคะ แล้วก็อธิบายว่า เออ ชั้นตาเราเป็นอย่างงี้ ๆ แล้วคุณหมอก็ให้ดูว่าแบบ เออ มัน มัน มันเป็นยังไง แต่รู้แค่ว่า เออ เห็นตาดำตัวเองอะ ไม่เคยเห็นลูกตาดำตัวเองเต็มดวงมาก่อนอะค่ะ กลมแป๋วเลย ก็เลยคิดว่า อือ ๆ มันน่าจะดีนะ เพราะว่าเห็นลูกตาดำเต็มดวงครั้งแรกนะคะ

จากวันแรกที่มันบวมอะค่ะ ความบวมก็ค่อย ๆ ยุบนะคะ แล้วพี่ก็ทำตามคำสั่งคุณหมออย่างเคร่งครัดนะคะ แล้วก็สุดท้ายเนี่ย พอความบวมมันค่อย ๆ ลดลงอะค่ะ เออ เหมือนชั้นเปลือกตาก็เริ่มเข้ารูปนะคะ พี่ก็ถ่ายรูปตัวเอง

นะคะ วันที่มาตัดไหมเสร็จเนี่ย พี่ก็ถ่ายรูปตัวเองเปรียบเทียบกับรูปเก่า ก็คือ Before กับ After นะคะ แล้วโพสต์ไปทาง Facebook โห แบบมีคนกด Like เพียบเลยค่ะ แล้วก็แบบชมว่า เออ แบบสดใสขึ้นนะคะ สวยขึ้นอะไรอย่างเงี้ยค่ะ ก็ โห รู้สึกดีใจมากนะคะ แล้วก็มีความรู้สึกว่า เออ รู้งี้มาผ่าตัดไปตั้งนานแล้วค่ะ
พี่ก็อยากฝากถึงคนที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังมีอาการโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนี้อยู่รึเปล่านะคะ เราก็มีวิธีสังเกตดวงตาเราง่าย ๆ อะค่ะว่าเรามีเปลือกตาที่ตกแล้วปิดดวงตาดำเรารึเปล่านะคะ ใครที่ยังไม่แน่ใจก็สามารถมาขอปรึกษากับคุณหมอได้นะคะ ไม่ต้องรอค่ะ แล้วเดี๋ยวคุณหมอก็จะให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับรูปหน้า กับดวงตาของแต่ละท่านนะคะ แล้วรับรองว่าท่านจะได้ดวงตาที่สดใสสวยงาม หลังจากพบคุณหมอไปแล้วอย่างแน่นอนค่ะ
https://jarem.co.th/reviews-ptosis-surgery-22/

ออฟไลน์ wm5398

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 471
    • ดูรายละเอียด
รอบรู้เรื่องยกทรง สำหรับการฟื้นฟูหลังผ่าตัดโดยเฉพาะ


การศัลยกรรมเสริมหน้าอก ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มขนาดหรือการยกกระชับทรวงอก รวมไปถึงผ่าตัดเพื่อการลดขนาด ทุกการผ่าตัดหน้าอกเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจะต้องมีการดูแลในช่วงฟื้นฟูหลังผ่าตัดอย่างถูกต้องเหมาะสม การสวมใส่ยกทรงสำหรับการฟื้นฟูหลังผ่าตัดโดยเฉพาะ ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการฟื้นฟูหลังผ่าตัด

รอบรู้ เรื่องยกทรงสำหรับการฟื้นฟูหลังผ่าตัดโดยเฉพาะ
การฟื้นฟูร่างกายหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก เป็นเรื่องสิ่งสำคัญเพราะนอกจากทำให้แผลผ่าตัดหายเร็ว ทำให้หน้าอกเข้าที่และได้หน้าอกที่สวยเป็นธรรมชาติแล้ว ยังป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ และโดยทั่วไปหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก แพทย์มักแนะนำให้ใช้ยกทรงสำหรับสวมใส่หลังการผ่าตัดโดยเฉพาะ เพื่อให้การฟื้นฟูเห็นผลอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยพยุงรูปทรงหน้าอกหลังผ่าตัดให้อยู่ทรงและได้รูปอีกด้วย

ข้อดีของ ยกทรงสำหรับการฟื้นฟูหลังผ่าตัดโดยเฉพาะ
        - การสวมใส่ยกทรงสำหรับฟื้นฟูร่างกายหลังผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยเฉพาะ ช่วยป้องกันไม่ให้ซิลิโคนหรือถุงเต้านมเทียมเคลื่อนตัว ทำให้หน้าอกไม่ได้รูปทรงตามที่ต้องการ
        - ช่วยให้การขับของเหลวในร่างกายเป็นไปได้สะดวก และลดภาวะเสี่ยงจากอาการเลือดออกในเนื้อเยื่อ
        - ช่วยให้โลหิตไหลเวียนสะดวกยิ่งขึ้น ลดอาการอักเสบจากแผลผ่าตัดได้ดี
        - ช่วยป้องกันการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด
        - ทำให้การฟื้นฟูเป็นไปได้เร็วขึ้น เพราะยกทรงจะยึดกระชับกับรูปทรงหน้าอกที่เสริมเข้าไปใหม่

วิธีเลือกซื้อ ยกทรงสำหรับการฟื้นฟูหลังผ่าตัด
        - เลือกยกทรงที่เป็นตะขอหน้า การปลดจากด้านหน้าจะช่วยลดการเคลื่อนไหวร่างกายบริเวณไหล่ และหน้าอก ช่วยป้องกันการอักเสบได้เป็นอย่างดี
        - เลือกเสื้อยกทรงที่ไม่มีโครง เมื่อสวมใส่แล้วไม่กดทับรอยแผลหรือกดทับซิลิโคน
        - เลือกเนื้อผ้าที่มีส่วนผสมของไนล่อน สเปนเด็กซ์ และคอตตอน ช่วยให้สวมใส่สบาย และระบายอากาศได้ดี ช่วยป้องกันอาการอับชื้นจากเหงื่อที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้
        - เนื้อผ้าควรมีความยืดหยุ่นสูง เพื่อช่วยลดแรงตึงของผิว สวมใส่ไม่รู้สึกอึดอัด และช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
        - สามารถปรับสายรัดได้ตามสรีระ มีตะขอปรับได้หลายระดับ

การเลือกยกทรงสำหรับผู้ที่ศัลยกรรมเสริมหน้าอก
ยกทรงสำหรับสวมใส่ช่วงฟื้นฟูหลังผ่าตัด

โดยทั่วไปหลังจากศัลยกรรมเสริมหน้าอก ในช่วงพักฟื้นแพทย์จะแนะนำให้สวมใส่ยกทรงซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ผ่าตัดเสริมหน้าอก ซึ่งใช้สวมใส่ในช่วงพักฟื้นเพื่อให้หน้าอกเข้าที่ประมาณ 4 สัปดาห์ ดังนั้นผู้ที่ศัลยกรรมหน้าอกควรจัดเตรียมเสื้อยกทรงให้เพียงพอสำหรับช่วงพักฟื้น

เสื้อยกทรงสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวัน
เสื้อชั้นในหรือยกทรงที่เหมาะสำหรับผู้ที่ผ่าตัดเสริมหน้าอก และสามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ควรเป็นยกทรงประเภท สปอร์ตบรา สำหรับการฟื้นฟูระยะยาว และควรเริ่มสวมใส่ในชีวิตประจำวันตั้งแต่ช่วง 1 เดือนแรกหลังผ่าตัด เพื่อช่วยประคองหน้าอกให้อกชิดสวยได้รูป และยังช่วยพยุงเต้านม ให้สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆในชีวิตประจำวันได้ตามปรกติ

การผ่าตัดเสริมหน้าอก เป็นการผ่าตัดใหญ่เพื่อเสริมหน้าอกให้มีขนาดตามความต้องการ ซึ่งผลลัพธ์ทั้งความปลอดภัย และความสวยงามของรูปทรง นอกจากขึ้นอยู่กับการเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว การดูแลตนเองในช่วงฟื้นฟูก็มีส่วนสำคัญ “รอบรู้เรื่องยกทรงสำหรับการฟื้นฟูหลังผ่าตัดโดยเฉพาะ” ก็เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลตนเองเพื่อให้ได้หน้าอกที่สวยงามเป็นธรรมชาติ
https://jarem.co.th/bras-specifically-breast-augmentation/

ออฟไลน์ wm5398

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 471
    • ดูรายละเอียด
หลังเสริมหน้าอกต้องดูแล รีวิวเสื้อชั้นในใส่กระชับอกชิด |Jarem clinic

สวัสดีค่ะ ไอซ์นะคะ ลูกสาวหมอหลุยส์ Jarem Clinic ค่ะ วันนี้นะคะ จะมาบอกเกี่ยวกับการใส่บราค่ะ บอกเลยว่าสาว ๆ หลาย ๆ คนนะคะ ยังไม่รู้ว่าหลังจากการทำศัลยกรรมไปแล้ว โดยเฉพาะหลังจากทำใหม่ ๆ นะคะ ไม่ควรจะใส่บราที่มีโครงนะคะ

สาว ๆ บางคนเนี่ย พอทำใหม่ ๆ นะคะ ไปใส่บราที่มีโครงบอกเลยว่าไม่ดีมาก ๆ นะคะ เพราะว่ามันจะทำให้หน้าอกของเราเกิดการผิดรูปได้ อย่าลืมนะคะว่าการศัลยกรรมหน้าอกเนี่ย เป็นการที่เราใส่ซิลิโคน ซึ่งเป็นสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในหน้าอกของเรา เพราะฉะนั้นเนี่ย มันต้องใช้เวลานานพอสมควรนะคะ ในการที่ทำให้มันแบบเข้ารูปนะคะ อยู่ตัว อยู่เสมอค่ะ

ซึ่งบราที่ปลอดภัย ที่ควรใส่นะคะ ควรจะเป็นซัพพอร์ตบราแบบนี้ค่ะ นี่นะคะ อันนี้นะคะ ไอซ์ซื้อมาจากคลินิกเลยเพราะว่าได้มาตรฐานแน่นอนค่ะ ไอซ์จะให้ดูนะคะ ซัพพอร์ตบราแบบนี้นะคะ คือดีมาก ๆ ค่ะ เพราะว่าเค้าจะประคองหน้าอกของเราตลอดเวลาค่ะ ไอซ์นะคะ ใส่มานานแล้วนะคะ ตั้งแต่หลังจากศัลยกรรมใหม่ ๆ จนถึงปัจจุบันก็ได้ก็เกือบ 2 ปีแล้วนะคะ ไอซ์ใส่ตลอดไม่ว่าจะเป็นตอนนอนนะคะ หรือเวลาไอซ์ออกไปข้างนอกนะคะ ถ้าวันไหนไอซ์ใส่ชุดที่แบบไม่ต้องโชว์ผิวมาก ไอซ์ก็จะใส่ซัพพอร์ตบราตัวนี้แล้วก็ใส่เสื้อทับลงไปค่ะ หรือไม่ก็เวลาไอซ์ไปทำงานนะคะ ไอซ์อาจจะใส่ซัพพอร์ตบราตัวนี้ แล้วก็ใส่สูทไป แค่นี้ก็แบบสามารถ Mix and Match ได้แล้ว แล้วที่สำคัญนะคะ มันสบายมาก ๆ เลย

ใส่ไปนะคะ มันประคองหน้าอกของเราได้ดีมาก ๆ โดยเฉพาะเวลานอนนะคะ เวลานอนเนี่ย บางทีเรานอนหงายนึกออกไหมคะ แล้วหน้าอกเนี่ย มันก็จะห่างออกไปข้าง ๆ ใช่ไหมคะ ซึ่งถ้าเราใส่ซัพพอร์ตบราตัวนี้นะคะ มันจะประคองหน้าอกของเราเนี่ย ให้มันอยู่ทรงนะคะ ที่ที่คุณหมอทำมาได้ค่ะ ตัวนี้เนี่ย สามารถขยายได้ตั้งแต่สาว ๆ ตัวเล็ก ๆ นะคะ ไซซ์ XS นะคะ ไปจนถึงสาว ๆ ที่แบบรูปร่างใหญ่หน่อยนะคะ ไซซ์ XL เห็นไหมคะว่ามันยืดขยายได้เยอะมาก ๆ เลยค่ะ แล้วก็เค้าสามารถที่จะปรับระดับได้หลายระดับเลย อะ เดี๋ยวไอซ์ให้ดูนะคะ ระดับ 1 นะคะ มันจะมี มันจะมีรูเกี่ยวอยู่ นี่นะคะ 1 2 3 4 5 6 7 ระดับเลยนะคะ


จะแบบว่าให้มันตึงแค่ไหนนะคะ ก็สามารถปรับได้ แล้วก็มันเป็นตะขอหน้านะคะ ซึ่งสามารถที่จะปรับระดับให้หน้าอกชิดได้ถึง 3 ระดับนะคะ จะเอาชิดมากสุดก็นี่เลย ขยับขึ้นมาหน่อยนะคะ แล้วก็แบบหลวมที่สุดนะคะ

เพราะฉะนั้นเนี่ย ไม่ว่าจะเป็นสาว ๆ ไซซ์ไหนนะคะ ก็สามารถใส่ได้สบายเลยค่ะ วิธีใส่ก็ง่ายมาก ๆ เลยนะคะ เพราะว่ามันเป็นตะขอหน้าค่ะ ไอซ์จะเลือกเป็นตะขอระดับในสุดนะคะ เพราะว่าไอซ์อยากให้หน้าอกมันชิดค่ะ จะมาติดตะขอให้ดูนะคะ อันนี้ไอซ์ใส่ไปแล้วครึ่งนึงนะคะ ตะขอเนี่ย มันมีหลายตัวหน่อยค่ะ แต่ว่ามันเห็นได้ชัดเจนเพราะมันเป็นแบบตะขอหน้านะคะ เนี่ยค่ะ ก็ติด ๆ ๆ เข้าไปนะคะ แค่นี้ค่ะ เสร็จแล้ว แล้วก็ดูสวยด้วยเห็นไหมคะ อย่างที่บอกคือสามารถ Mix and Match กับชุดได้หลายแบบเลย


ไอซ์ใส่ตลอดเวลาเลยนะคะ ไม่ว่าจะออกไปข้างนอก ก็สามารถ Mix and Match จับคู่กับชุดได้หลายแบบเลย หรือว่าจะเป็นตอนออกกำลังกายนะคะ ไอซ์ก็ใส่นะคะ เพื่อซัพพอร์ตแล้วก็ประคองหน้าอกของไอซ์เนี่ย ให้มันได้รูปแล้วก็ปลอดภัยอยู่เสมอค่ะ

เพราะฉะนั้นฝากถึงสาว ๆ ที่ทำศัลยกรรมหน้าอกมานะคะว่าอย่าละเลยเกี่ยวกับการเลือกใส่บราค่ะ เพราะว่าเสียเงินในการทำศัลยกรรมไปแล้วนะคะ บางคนเนี่ยจ่ายไปแพงมาก ๆ แต่มาพลาดตรงการใส่บราค่ะ พอใส่บราที่มันไม่เหมาะสมนะคะ ไม่ได้มาตรฐานนะคะ มันไม่ซัพพอร์ตหน้าอกของเราเนี่ย ปรากฏว่านาน ๆ เข้าหน้าอกนะคะ มันผิดรูปนะคะ มันผิดทรง มันไม่สวยเหมือนตอนทำใหม่ ๆ ค่ะ เพราะฉะนั้นเนี่ย เรื่องนี้เนี่ยสำคัญมาก ๆ เลย โอเค แล้วถ้าใครนะคะ อยากจะได้ซัพพอร์ตบราที่ได้มาตรฐานแล้วก็ดี ๆ แบบนี้ แบบที่ไอซ์ใส่นะคะ สามารถติดต่อสอบถามได้นะคะ ที่ Jarem Clinic เลยนะคะ เดี๋ยววันนี้ไอซ์ต้องขอตัวไปก่อนนะคะ เจอกันได้ใหม่ในครั้งหน้าไอซ์จะมาพูดเกี่ยวกับเรื่องอะไร รอดูค่ะ ไปแล้วค่ะ บ๊ายบายค่ะ
https://jarem.co.th/review-of-tight-fitting-underwear

ออฟไลน์ wm5398

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 471
    • ดูรายละเอียด
เสริมหน้าอกที่ไหนดี? ใช้ซิลิโคนอะไรดี? คลิปนี้รู้เรื่อง |Jarem clinic

สวัสดีค่ะ ชื่อน้ำตาลนะคะ ปัจจุบันอายุ 24 ปีค่ะ วันนี้ก็มา มาตามนัดค่ะ ทำหน้าอกครบ 1 เดือนครึ่งแล้วค่ะ กับคุณหมอหลุยส์ Jarem Clinic ค่ะ

ก่อนทำเลยถ้า เริ่มแรกเลยก็ต้องถามว่าทำไมถึงต้องเลือกที่ Jarem Clinic สำหรับการทำศัลยกรรมหน้าอกใช่ไหมคะ สำหรับน้ำตาล น้ำตาลต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองค่ะ อย่างแรกเลยคือต้องสวย ปลอดภัย แล้วก็ได้มาตรฐานค่ะ ซึ่งที่ Jarem Clinic ก็ตอบโจทย์ความต้องการของเราทุกอย่างค่ะ

ของน้ำตาลใช้เป็น Motiva Ergonomix ค่ะ ขนาด 315 cc ค่ะ ซึ่งก็เต็ม Max เลยค่ะ ที่คุณหมอมาบอกว่าเราสามารถทำได้ค่ะ


อย่างแรกเลยนะคะ เราต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดีที่สุดก่อนค่ะ ว่าสิ่งไหนที่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา ในเมื่อเราตัดสินใจที่จะเลือกทำศัลยกรรมแล้ว 1 ครั้งอะค่ะ น้ำตาลก็อยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง แล้วเราก็รู้สึกว่าซิลิโคนยี่ห้อนี้แล้วก็คลินิกนี้เนี่ย เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราค่ะ

ตอนหลังทำนะคะ เคยได้ยินคนบอกว่าทำหน้าอกเนี่ย เจ็บเหมือนรถสิบล้อทับ สิบล้อทับ ซึ่งน้ำตาลขอบอกว่าไม่เป็นความจริงเลยค่ะ สำหรับความรู้สึกเจ็บเหมือนรถสิบล้อทับนะคะ คุณหมอหลุยส์เนี่ย มือเบามากค่ะ หลังทำเนี่ย ก็จะมีความรู้สึกตึง ๆ ที่หน้าอกแล้วก็เคลื่อนไหวลำบากนิดหน่อย ซึ่งมันเป็นภาวะปกติหลังผ่าตัดของโดยทั่วไปอยู่แล้วอะค่ะ แต่ก็ถือว่าระยะเวลาการฟื้นตัวของน้ำตาลเนี่ย ค่อนข้างเร็วค่ะ เพียงแค่ 10 วันค่ะ ก็สามารถไปทำงานตามปกติได้แล้วค่ะ


ตอนนี้ก็คือ 1 เดือนครึ่งก็คือรู้สึกว่าเริ่มนิ่ม เป็นธรรมชาติแล้วก็รูปทรงเนี่ย สวยมาก เป็นธรรมชาติมากค่ะ อย่างที่สองก็คือประทับใจในคุณหมอค่ะ เพราะว่าคุณหมอเนี่ย ใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนเลย ตั้งแต่ก่อนทำ ขณะทำแล้วก็หลังทำค่ะ แล้วอย่างที่สามก็คือประทับใจเจ้าหน้าที่ทุกท่านค่ะ ที่คลินิกค่ะ รู้สึกว่าทุกคนน่ารัก เป็นกันเองแล้วก็ให้ข้อมูลดีมากค่ะ


สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนนะคะ ที่ยังลังเลแล้วก็ยังหาข้อมูลสำหรับการทำศัลยกรรมอยู่ น้ำตาลก็อยากให้ทุกคนเนี่ย ศึกษาหาข้อมูลให้ดี ๆ แล้วก็เลือกคลินิกที่ดีที่สุดให้กับตัวเองค่ะ ซึ่งสำหรับน้ำตาล น้ำตาลคิดว่าที่ Jarem Clinic เนี่ยค่ะ ก็เป็นทางเลือกที่ดีของน้ำตาลอย่างนึง แล้วก็อยากให้เพื่อน ๆ มาทำที่นี่กัน
https://jarem.co.th/review-breast-augmentation-32/

ออฟไลน์ wm5398

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 471
    • ดูรายละเอียด
แม่ลูกสอง ขอทำนมใหม่กับหมอหลุยส์ จัดไป570cc | Jaremclinic

สวัสดีค่ะ ชื่อแก้วนะคะ วันนี้กลับมาที่ Jarem Clinic นะคะ เพื่อที่จะมาอัพไซซ์หน้าอกนะคะ จาก 400 cc นะคะ เป็น 570 ค่ะ เดี๋ยวเข้าไปดูกันเลยค่ะ

รอบแรกทำไป 400 cc ค่ะ 3-4 ปีแล้วค่ะ หน้าอกใหญ่ขึ้นนะคะ จากเดิมที่แบบว่าไม่มีเลย รอบนี้เขยิบมาเป็น 570 หลังจากมีลูกแล้วก็ให้นมลูกได้ปกติค่ะ ปั๊มนมได้ปกติ ไม่มีปัญหาอะไรเลย

ตอนนี้ลูก 2 คนแล้ว ก็อยากได้หน้าอกที่ใหญ่ขึ้นค่ะ เพราะว่าตอนมีลูกมัน มัน.. มันหน้าอกมันเหมือนแบบว่ามันจะหย่อนนิด ๆ อะไรอย่างเงี้ย แต่ก็คือไม่ได้ถึงกับแบบว่าหย่อนเลย คล้อยเลยอะไรอย่างเงี้ยค่ะ ก็เลยอยากอัพไซซ์เพิ่ม ก็กลับมาเลือก Jarem Clinic เหมือนเดิมนะคะ เพราะว่าคุณหมอผ่าตัดดีค่ะ แล้วก็แผลเป็นที่ใต้หน้าอกก็ไม่มีรอย ไม่มีอะไรค่ะ ค่ะ เดี๋ยวแก้วขอตัวไปพบคุณหมอก่อนนะคะ

ก็ตื่นมาก็โอเคค่ะ ไม่เจ็บ ไม่อะไร ยังง่วงอยู่ ง่วง อึน ๆ ถูกใจมากค่ะ บึ้บบั้บขึ้นมากว่าเดิมเยอะเลย ชอบมาก

โอเคค่ะ ตอนนี้ก็ทำหน้าอกเสร็จแล้วนะคะ พี่พยาบาลก็แนะนำว่าให้ดูแลแผล ห้ามยกของหนัก แล้วก็ห้ามทานพวกของแสลง เดี๋ยวอีก 2 สัปดาห์มาอัปเดตนะคะ

สวัสดีค่ะ วันนีพบกับแก้วนะคะ ที่ Jarem Clinic วันนี้แก้วก็ทำหน้าอกครบ 1 เดือนแล้วนะคะ เสริมครั้งนี้เสริมเป็นครั้งที่ 2 อัพไซซ์นะคะ ก็เพื่อนทักหลายคนนะคะว่าเสริมมาครั้งนี้ บึ้ม บึ้มมาก ค่ะ

ไม่เวียนหัวค่ะ ไม่ ไม่ ไม่คลื่นไส้  ไม่อาเจียน ไม่เป็นอะไรเลยค่ะ ไม่มีเลยค่ะ ใช้ชีวิตปกติ

ของเดิมเสริมไป 400 ค่ะ ตอนนี้มาอัพไซซ์เป็น 570 ค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกเลยนะคะว่าแก้วทำหน้าอกไป ฟื้นตัวเร็วมากนะคะ
ประมาณ 7 วันก็ฟื้นตัวดีแล้วนะคะ แผลดี ไม่มีปัญหาอะไรนะคะ อีกอย่างนึงทริคในการดูแลรักษาตัวเองนะคะ ก็ทานยาตามที่คุณหมอสั่งนะคะ นอนหมอนสูง ไม่นอนตะแคงนะคะ แล้วก็ห้ามนอนคว่ำ ที่สำคัญนะคะ ห้ามยกของหนัก ค่ะ แล้วก็ของแสลงนะคะ ห้ามทานเลยนะคะ เด็ดขาด 3 เดือนนะคะถึงจะทานได้ หลังเสริมหน้าอกมา 1 เดือนตอนนี้นะคะ ก็นมนิ่มนะคะ นิ่มมาก ตอนหลัง 1 เดือนยังไม่นิ่มขนาดนี้นะคะ แต่ตอนนี้นิ่มมาก

ก็ประทับใจคุณหมอนะคะ เพระาว่คุหมอเสริมหน้าอกได้ดีมากค่ะ วางซิลิโคนได้โอเคเลยนะคะ นมชิด แล้วก็แผลนะคะ ที่ผ่ามาก็เล็กนิดเดียวเองค่ะ
แล้วพี่ ๆ แอดมินนะคะ ก็ดูแลเป็นอย่างดีนะคะ มีเรื่องข้องใจหรือว่าสงสัยอะไร แชทถามพี่แอดมินก็ตอบเร็วมากค่ะ

ค่ะ แก้วก็ฝากเพื่อน ๆ นะคะ ใครที่สนใจนะคะ ที่อยากจะเสริมหน้าอกนะคะ แก้วแนะนำ Jarem Clinic นะคะ เพื่อน ๆ สามารถทักไปในเพจ Jarem Clinic ได้เลยนะคะ มีพี่ ๆ แอดมินคอยตอบคำถามอยู่ 24 ชั่วโมงค่ะ

ปกติหนูก็ไม่ได้ออกนอกบ้านอยู่แล้วนะพี่ ขอไปเที่ยวก็ไม่ให้ไป รอบแรกที่มาทำคือมันไม่ให้หนูทำนะ ห้ามไม่ให้ทำนู่นนี่นั่น ไม่สนจ้ะ จองทำเลย พอหลังจากนั้นปุ๊บ ตอนแรกไม่กล้าสัมผัส พอได้จับเท่านั้นแหละ อื้มมมมม ไม่ปล่อย
https://jarem.co.th/review-breast-augmentation-31/

ออฟไลน์ wm5398

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 471
    • ดูรายละเอียด
อาการตาไม่เท่ากัน สาเหตุและลักษณะที่ควรรู้ก่อนศัลยกรรม Jarem Clinic


เชื่อว่าอาการตาไม่เท่ากัน คิ้วสูงต่ำไม่เท่ากัน หรือความผิดปกติอื่น ๆ บนใบหน้าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน กรณีเกิดขึ้นเล็กน้อยไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือทำให้บุคลิกภาพมีปัญหา ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข ส่วนความผิดปกติบนใบหน้าที่นิยมศัลยกรรมมากที่สุดได้แก่ อาการตาไม่เท่ากัน ปัญหานี้เกิดจากสาเหตุใด และอาการอย่างไรที่ควรศัลยกรรม บทความนี้มีคำแนะนำค่ะ

อาการตาไม่เท่ากัน คืออะไร
อาการตาไม่เท่ากัน คือภาวะที่ขนาดของตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน โดยบางคนสามารถมองเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน ส่วนในบางคนอาจเห็นชัดเมื่อยิ้มหรือมีปฏิกิริยายาต่าง ๆ เกิดขึ้นบนใบหน้า เช่น อาการเหนื่อยล้า หรือตื่นตกใจ ซึ่งอาการตาไม่เท่ากันที่เห็นได้อย่างชัดเจน ยังเป็นปัญหาต่อบุคลิกภาพทำให้หลาย ๆ คนขาดความมั่นใจในตัวเองจนส่งผลต่อคุณภาพการใช้ชีวิตอีกด้วย

สาเหตุของอาการตาไม่เท่ากัน
       - อาจเกิดจากโครงหน้าทั้งสองข้างของบุคคลนั้นไม่เท่ากัน
       - มีปัญหาภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ส่งผลทำให้ชั้นตาและการเปิดของตาดำไม่เท่ากัน
       - เกิดจากความสูงต่ำของคิ้ว และโหนกแก้มทั้งสองข้าง

ประเภทและลักษณะของตาไม่เท่ากัน
ประเภทและลักษณะของอาการตาไม่เท่ากันมีหลายรูปแบบ บางรูปแบบเช่น ตาดำไม่เท่ากันได้แก่ตาดำข้างหนึ่งใหญ่อีกข้างหนึ่งเล็ก แม้จะเกิดขึ้นได้ยากแต่ก็สามารถพบเจอได้ ส่วนลักษณะตาไม่เท่ากันที่พบได้ทั่วไป จะเป็นอาการที่เกิดจากเปลือกหรือเบ้าตาไม่เท่ากันเป็นส่วนมาก ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการศัลยกรรม ซึ่งต้องพบแพทย์หรือจักษุแพทย์เพื่อวิเคราะห์ประเภทและสาเหตุที่ตาไม่เท่ากันเสียก่อน เช่น

อาการตาไม่เท่ากัน จากเปลือกตาด้านบนตก
อาการตาไม่เท่ากันจากสาเหตุนี้พบได้มากที่สุด เกิดจากอาการเปลือกตาด้านบนตกหรือหย่อนคล้อง ซึ่งจะทำให้ด้านที่มีเปลือกตาตกดูเล็กลง อาการตาไม่เท่ากันประเภทนี้เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งเปลือกตา

อาการตาไม่เท่ากัน จากเปลือกตากลวง
อาการตาไม่เท่ากันจากเปลือกตากลวง หมายถึง การมีเปลือกตาข้างใดข้างหนึ่งกลวงหรือโบ๋ลงไปอาจจะทำให้ตาของคุณดูไม่เท่ากันได้ อาการแบบนี้สามารถรักษาได้โดยไม่ต้องผ่าตัดแต่อาจจะทำการ ฟิลเลอร์บริเวณดวงตา หรือการฉีดไขมันเข้าไป

เปลือกตาด้านบนร่น
เปลือกตาด้านบนร่น เป็นหนึ่งในความผิดปกติของอาการตาไม่เท่ากันที่พบได้บ่อย หมายถึงลักษณะเปลือกตาด้านบนร่นขึ้นทำให้เปลือกตาดูสูงกว่าอีกข้าง และทำให้ขนาดของตาอีกข้างหนึ่งดูใหญ่ อาจจะเกิดจากกรรมพันธุ์ หรือเป็นอาการของโรคที่เกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ ซึ่งสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัดเช่นกัน

อาการตาไม่เท่ากัน จากเปลือกตาด้านล่างร่น
อาการตาไม่เท่ากันจากเปลือกตาด้านล่างร่น ลักษณะอาการคล้ายกับตาไม่เท่ากันจากเปลือกตาด้านบนร่น หากเปลือกตาด้านล่างร่นลง จะทำให้ตาดูใหญ่กว่าอีกข้างซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากกรรมพันธุ์หรือเกิดขึ้นเพราะทำการผ่าตัดรักษาโรคมะเร็ง วิธีการรักษาเราอาจทำการยกเปลือกตาด้านล่างขึ้นด้วยการสลายไขมันได้

อาการตาไม่เท่ากัน จากปัญหาคิ้วไม่เท่ากัน
กรณีถ้าคิ้วทั้งสองข้างสูงต่ำไม่เท่ากัน อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ตาดูไม่เท่ากัน จากตำแหน่งคิ้วของแต่ละบุคคลจะถูกกำหนดโดยยีนส์และรูปทรงของกระดูกบริเวณใบหน้า กล้ามเนื้อและเส้นประสาทและฐานตา หากมีอาการเปลือกตาด้านบนตก ก็อาจทำให้คิ้วดูสูงจากตามากขึ้นเมื่อคิ้วแต่ละข้างสูงต่ำไม่เท่ากัน ก็ส่งผลทำให้ตาไม่เท่ากันได้ด้วย

อาการตาไม่เท่ากันที่เกิดจากอาการตาโปน
อาการตาโปนเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุรวมถึงพันธุกรรม โรคคอพอก การมีเบ้าตาที่ตื้น หรือมีโหนกแก้มเรียบก็ทำให้เกิดอาการตาโปนได้ และกรณีที่ตาข้างใดข้างหนึ่งปูดหรือโปนขึ้นมามากกว่าตาอีกข้างหนึ่ง ก็จะทำให้ตาข้างที่โปนดูใหญ่ขึ้น วิธีการรักษาจะต้องใช้การผ่าตัดเพื่อศัลยกรรมให้ลูกตากลับลึกเข้าไป

ตาไม่เท่ากัน จากอาการตาลึกหรือตาจม
ตาไม่เท่ากันจากอาการตาลึกหรือตาจม จะมีลักษณะตรงข้ามกับตาปูดตาโปน เพราะอาจจะมีตาข้างใดข้างหนึ่งลึกเข้าไปและทำให้ตาดูเล็กลง ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุรวมถึงกรรมพันธุ์ หรือเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้กระดูกเบ้าตาแตก มีอาการไซนัส  ก่อนศัลยกรรมจึงต้องตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการตาลึกเพื่อหาแนวทางผ่าตัดเพื่อศัลยกรรมให้ตาดูดีและเท่ากันมากขึ้น

อาการตาไม่เท่ากัน จากปัญหาเบ้าตาไม่เท่ากัน
เบ้าตาไม่เท่ากันเกิดจากโครงกระดูกของใบหน้า ซึ่งอาจทำให้อาการตาไม่เท่ากันเกิดขึ้นเพียง เล็กน้อยไปจนถึงอาการตาไม่เท่ากันที่สังเกตเห็นได้ชัด เช่น ตาข้างหนึ่งสูงกว่าอีกข้างหนึ่ง ปัญหานี้อาจไม่สามารถรักษาให้หายได้สมบูรณ์ แต่สามารถศัลยกรรมตกแต่งเพื่อปกปิดได้ เช่น ทำการผ่าตัดฝังเบ้าตาเทียม หรือทำการบีบเบ้าตา การรักษาขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละบุคคลที่อาจมีภาวะความรุนแรงแตกต่างกันในแต่ละบุคคล

สำหรับผู้ที่มีปัญหาตาไม่เท่ากัน การผ่าตัดตกแต่งหรือผ่าตัดทำศัลยกรรมคือแนวทางรักษาที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเห็นผลลัพธ์ แต่ทั้งนี้การเลือกคลินิกและแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญก็คือปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การผ่าตัดออกมาสมบูรณ์แบบและแก้ปัญหาตาไม่เท่ากันได้ดีที่สุด
https://jarem.co.th/causes-unequal-eye-symptoms/

ออฟไลน์ wm5398

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 471
    • ดูรายละเอียด
เสริมหน้าอก หมอหลุยส์ยืน1 นางแบบชื่อดังรีวิวหมดเปลือก!! |Jarem clinic

สวัสดีค่ะ แต้วนะคะ กัญญากานต์ วงศ์สง่าค่ะ ต้องบอกว่าแต้วก็เป็นอีกหนึ่งคนนะคะ ที่เป็นลูกสาวหมอหลุยส์ค่ะ ตอนนี้นะคะ แต้วก็ทำงานเป็น MC พิธีกร พริตตี้นะคะ แล้วก็มีรับงานถ่ายแบบด้วย แล้วก็รับงานแสดงบ้างนะคะ เป็นซีรีย์อีสานค่ะ
วันนี้ก็จะมาเล่าประสบการณ์ให้เพื่อน ๆ ฟังหลังจากที่ทำหน้าอกไปนั่นเองค่ะ

จริง ๆ แล้วเนี่ย เกริ่นก่อนเลยว่าแต้วเนี่ย เป็นคนมีหน้าอกอยู่แล้วนะคะ แต่ว่าด้วยความที่เราทำงานอาชีพเป็นนางแบบด้วย เวลาใส่ชุดทำงานเนี่ย เราอาจ ไม่มีใครที่จะมารั้ง มาดึง มาขึงตลอดเวลานะคะ เพราะว่ามันอาจจะเจ็บตรงนี้ เพราะแต้วเป็นคนไหปลาร้าสูง เคยแล้วไปทำงานเนี่ย บิกินี่ค่ะ รัดตรงนี้จนเป็นแผลเลยค่ะ ก็เลยตัดสินใจนะคะ ที่จะทำหน้าอกนะคะ แล้วรู้สึกว่าหลังจากที่ทำไปแล้วเนี่ย โอโห ดูเซ็กซี่ มีทรวดทรงขึ้นเยอะ แล้วก็งานถ่ายแบบเนี่ย เข้ามาเยอะมาก ๆ ค่ะ รวมไปถึงงานเซ็กซี่ต่าง ๆ นะคะ ก็เข้ามาเยอะมาก ๆ เลยค่ะ


แล้วแต้วก็เสริมหน้าอกไปนะคะ อยู่ที่ 400 cc นะคะ เป็น Mentor นะคะ เป็นผิวทรายนะคะ ซึ่งผิวทรายเนี่ย ศึกษามาแล้วแหละว่าเค้าเนี่ย ไม่ ไม่ค่อยเป็นพังผืดนะ สำหรับหลาย ๆ คน แล้วส่วนตัวแต้วเนี่ย ทำไป 4 ปีค่ะ ไม่มีการแบบ โห ซิลิโคนแข็ง ต้องบอกก่อนว่าแต้วไม่เคยนวดเลยนะคะ ส่วนใหญ่ผู้ชายนวด เอ๊ย ไม่ใช่ ล้อเล่น มันไม่แข็งอะ อย่างที่บอก มันก็นิ่มนะ ขนาดไม่ได้นวดนะ ก็แบบคลึง ๆ เราก็อาจจะคลึง ๆ แบบนี้เองง่าย ๆ นะคะ ตอนแรกก็แค่สัปดาห์แรกอะ ที่พอแผลมันหายแล้วเรานวดได้อะ ถึงนวด หรือว่าถ้าใครมีปัญหาก็สามารถเข้ามาปรึกษาคุณหมอได้ที่ Jarem Clinic เลยค่ะ

หลังจากที่ทำไปนะ ทุกคนก็ โห ชอบมากเลย ชอบหน้าอกแต้วเพราะว่ามันดูเป็นธรรมชาติ แล้วก็โชคดีอย่าง เพราะว่าเป็นคนมีเนื้อหน้าอกเดิมอยู่แล้ว มันก็เลยไม่ได้เป็นบล็อก เป็นก้อน แล้วก็เทคนิคดี ๆ ของคุณหมอเนี่ย คุณหมอบอกตั้งแต่ทีแรกเลยว่าคุณหมอมีเทคนิคที่จะทำให้มันดูเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว แล้วเวลาไปเจอเพื่อน ๆ เพื่อน ๆ ก็จะแบบเฮ้ย ชอบ หน้าอกดูเป็นธรรมชาติมาก ดูแบบเหมือนไม่ได้ทำมาอะ แล้วเพื่อนก็ขอจับ เราก็ให้จับบอก จริงหรอ จับได้เลย เพราะว่ามันไม่มีซิลิโคนให้เห็นเลยค่ะตรงนี้ เอาจริง ๆ นะคะ แล้วก็หลาย ๆ คนรอบข้างตัวแต้วเองก็ชอบเพราะว่ามันดูเป็นธรรมชาติมาก ๆ เลยนะคะ


จริง ๆ ก่อนหน้านั้นที่จะทำหน้าอก อย่างที่บอกว่าเป็นคนมีหน้าอกอยู่แล้วก็รับถ่ายหน้าอก ถ่าย ไม่ใช่ ถ่ายแบบอยู่แล้ว แต่ว่าพอทำหน้าอกไปเนี่ย ก็คืองานถ่ายแบบมันก็บูมขึ้น มีเข้ามาเยอะมาก ๆ เลยค่ะ

ดังนั้นใครที่อยากเข้ามาทำหน้าอกแบบแต้วนะคะ มาได้เลยที่ Jarem Clinic นะ เพราะว่าคุณหมอเค้าจะมีเทคนิคพิเศษในการทำหน้าอกของเราให้ดูเป็นธรรมชาตินะคะ แล้วก็จะบอกเราว่า เอ๊ะ ตัวเราเท่านี้ เราต้องทำไซซ์ไหนนั่นเองค่ะ

แล้วใครที่อยากทำหน้าอกนะคะ อย่าลืมมาเลยนะคะที่ Jarem Clinic ฝากไว้ด้วย สาว ๆ ที่มีหน้าอกดูธรรมชาติแบบนี้ มาได้เลย แล้วก็เดี๋ยวแต้วไปแล้วนะ เพราะว่าเดี๋ยวจะไปปรึกษาคุณหมอว่าจะเปลี่ยนอะไรอีกนะคะ ไปแล้วค่ะ บ๊ายบาย
https://jarem.co.th/review-breast-augmentation-30/

ออฟไลน์ wm5398

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 471
    • ดูรายละเอียด
เสริมหน้าอกสวย ไม่ต้องบิน ไปถึงเกาหลี|Jarem clinic

เฌอเบลล์ สวัสดีค่ะ วันนี้นะคะ ก็มาพบกับเฌอเบลล์ FHM อีกแล้วนะคะ ลูกสาวหมอหลุยส์รุ่นที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้นะคะ
ค่ะ ซิลิโคนที่เบลล์ทำนะคะ ก็จะเป็น Mentor นะคะ ผิวทราย ไซซ์ 375 ค่ะ


ค่ะ เบลล์ก็ทำหน้าอกมาได้ 3 ปีครึ่งเกือบ 4 ปีแล้วนะคะ โดยรวมก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ แล้วก็นิ่มมาก ๆ ด้วย แล้วก็ไม่ชิดไม่ห่างจนเกินไป

ตอนนี้คือเบลล์ทำได้ 3 ปีแล้ว คือมันก็พอดีตัวแล้วก็ไม่เล็กไม่ใหญ่มาก แล้วก็ที่สำคัญ ทำนมกับหมอหลุยส์ดูแพงทุกคนค่ะ

ขอบคุณหมอหลุยส์มาก ๆ เลยค่ะที่เนรมิตรูปร่างหรือรูปทรงที่ดีให้กับเบลล์ ให้เบลล์ได้มีโอกาสในวงการบันเทิงค่ะ

มิเกล สวัสดีค่ะ ชื่อมิเกลนะคะ มาเสริมหน้าอกที่ Jarem Clinic ครบ 1 ปี 6 เดือนแล้วค่ะ
ก็อย่างที่รู้ ๆ กันนะคะ Motiva เนี่ยมันมี 2 รุ่นใช่ไหม แต่ว่าหนูเนี่ยเลือก Ergonomix เพราะว่ามันสัมผัสนุ่มแล้วก็ธรรมชาติ เหมือนนมจริงมาก ๆ เลย ซึ่งทำมาแล้วเวลาเพื่อนมาจับอย่างเงี้ย เพื่อนก็จะแบบทำนมหรอ แต่นิ่มมากเหมือนนมจริงเลย เราคิดถูกแล้วที่เราทำหน้าอกที่นี่



ตอนแรกนะคะ คุณหมอเนี่ยเลือกไซซ์ให้ 355 cc แต่ว่ามิเกลเนี่ยชอบใส่เสื้อผ้า ชอบใส่บิกินี่หรือว่าเสื้อผ้าที่มันดูดูมดูมขึ้นมา คุณหมอก็เลยบอกว่าถ้า 375 เนี่ยก็พอดีนะ ไม่ตันแล้วก็ไม่อ้วนเกินไป ใส่แล้วดูออกมาสวยมาก
ค่ะ ใครที่อยากมีหน้าอกสวย ๆ นะคะ ก็เข้ามาปรึกษากับคุณหมอหลุยส์ได้เลยค่ะ ที่ Jarem Clinic นะคะ

เจเจ ค่ะ สวัสดีค่ะ หนูชื่อเจเจนะคะ อายุ 21 ปีค่ะ มาทำหน้าอกกับคุณหมอหลุยส์ค่ะ ทำได้ 7 เดือนแล้วค่ะ

ซิลิโคน Motiva เจทำ 295 ค่ะ ทำทั้งทีก็น่าจะทำอันที่ดีที่สุดค่ะ

ให้ทำกับคุณหมอหลุยส์ที่ Jarem Clinic ค่ะ  เพราะว่าคุณหมอเป็น.. เป็นแพทย์เฉพาะทางนะคะ แล้วก็ทุกคนที่ทำมาที่นี่สวยหมดเลยค่ะ ก็เจเจอยากจะให้ทุกคนมาทำที่นี่ค่ะ อยากจะให้หน้าอกสวยเหมือนเจเจค่ะ

ปอนด์ สวัสดีค่ะ ชื่อปอนด์นะคะ วันนี้จะมารีวิวการแก้ไขหน้าอกที่ Jarem Clinic ค่ะ
ครั้งแรกหมอ หมอท่านเดิมบอกว่าหน้าอกไม่เท่ากันค่ะ เค้าก็เลยให้ข้างนึงใหญ่กว่า 25 cc ค่ะ แล้วก็มันเริ่มที่จะแข็งหลังจากทำมาประมาณไม่ถึงปีค่ะ เป็นพังผืดแล้วก็เป็นบล็อกอะค่ะ

เห็นว่าคลินิกนี้มีวิสัญญีแพทย์เฉพาะทางค่ะ แล้วก็รู้สึกปลอดภัยอะค่ะ และดูคุณหมอที่เป็นศัลยแพทย์เฉพาะทางแล้วก็เห็นว่าเป็นติดอันดับค่ะ ก็เลย.. แล้วก็คุณหมอหลุยส์ไม่มีเคสหลุดด้วยค่ะ

คุณหมอหลุยส์บอกว่าให้ใส่ซิลิโคนได้ 355 cc เท่ากันทั้งสองข้างค่ะ ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ค่ะ ก็หลังจากที่เสริมที่นี่นะคะ รู้สึกว่าฟื้นตัวเร็วกว่าเดิมค่ะ มากกว่ารอบแรกค่ะ คือดีกว่าที่คิดอะค่ะ

สำหรับใครที่ต้องการเสริมหน้าอกหรือว่าแก้ไขหน้าอกนะคะ ก็แนะนำที่ Jarem Clinic ค่ะ เพราะว่าคุณหมอและพี่แอดมินมีความใส่ใจค่ะ รับรองไม่ผิดหวังค่ะ

ตัวเล็ก สวัสดีค่ะ ชื่อตัวเล็กนะคะ วันนี้มีนัดตรวจหน้าอกกับคุณหมอหลุยส์ที่ Jarem Clinic ค่ะ ก็ครบ 14 วันแล้วนะคะ
เป็นอาชีพแดนเซอร์ค่ะ ทำซิลิโคน Mentor อะค่ะ ไซซ์ 300 cc ค่ะ ผิวเรียบค่ะ


ใช่ค่ะ คุณหมอประเมินให้ค่ะ การใส่เสื้อผ้าก็ดูสวยขึ้น แลอึ๋มขึ้นค่ะ แล้วก็มั่นใจกว่าเดิมเยอะเลยค่ะ เพื่อนรอบข้างก็ชมว่าหน้าอกสวยขึ้นค่ะ แล้วก็ปังมากขึ้น ใช่ค่ะ
บราเก่า ๆ ก็โละทิ้งหมดเลย ยกตู้เลยอะค่ะ คือใส่ไม่ได้แล้ว รอซื้อใหม่อย่างเดียวค่ะ
https://jarem.co.th/reviews-breast-augmentation-29/

ออฟไลน์ wm5398

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 471
    • ดูรายละเอียด
เปลี่ยนตาปรือ เป็นตาสวย แก้ไข”กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง”

ตอนนี้นะคะเราก็อยู่ที่ทางเข้า Jarem Clinic นะคะ วันนี้จะมาปรึกษาคุณหมอยุ้ยเรื่องแก้ไขดวงตาสองชั้นค่ะ แล้วเราก็จะทำกันเลยค่ะ สังเกตได้ว่าดวงตาของเคเคนะคะ ข้างซ้ายนะคะจะเป็นชั้นตาที่ใหญ่มากๆเลยค่ะ แต่ว่าด้านขวาจะเป็นชั้นตาที่เยอะๆย่นๆ ซึ่งมันคือกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงค่ะ และเราจะมาทำการแก้ไขกับคุณหมอยุ้ยที่ Jarem Clinic เลยค่ะ ไปเลยค่ะ

ตื่นเต้นมากนะคะ อยากทำเร็วๆ อยากได้แบบกำลังพอดีค่ะ แล้วก็เข้ากับตาเรา ธรรมชาติค่ะ เดี๋ยวจะสวยแล้วค่ะ เดี๋ยวจะไปเป็นลูกสาวหมอยุ้ยแล้วค่ะ เจอกันนะคะ

ค่ะ นี่ก็คือตาที่เคเคเพิ่งทำเสร็จเมื่อกี้นี้เลยนะคะ คือคุณหมอทำละเอียดมากๆค่ะ เรื่องเจ็บก็คือเจ็บแค่ตอนฉีดยาชา พอใจมากๆค่ะ รู้สึกว่าตาดูสดใสขึ้น ต่อจากนี้จะสวยมากกว่านี้อีกค่ะ เพราะว่ามันจะค่อยๆยุบแล้วก็เข้าที่มากขึ้นค่ะ โอเค


วันนี้เป็นวันที่ 2 หลังจากการทำนะคะ ตื่นเช้ามาก็คาดหวังว่ามันจะบวมมากๆ แต่ก็ไม่ได้บวมขนาดนั้นนะคะ ถือว่าโอเคค่ะ ไม่บวมมากค่ะ วันที่ 2 นะคะ

วันนี้เคเคก็ผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงครบ 10 วันแล้วนะคะ ที่ Jarem Clinic กับคุณหมอยุ้ยนะคะ ตาของเคเคก็หายบวมขึ้นมากๆเลยค่ะ ก็รู้สึกว่าชั้นตาโอเคขึ้น จากตอนแรกที่แบบไม่เท่ากันมากๆเลยนะคะ ตอนนี้ก็ใกล้เคียงเท่ากันมากขึ้นค่ะ
วันนี้เคเคก็มาตัดไหมนะคะ นี่ก็เป็นชั้นตาใหม่ของเคเคนะคะ รู้สึกว่ามันเท่ากันใกล้เคียงกัน รู้สึกชอบมากๆเลยค่ะ คุณหมอเก่งมากๆเลยค่ะ

ตอนนี้เคเคก็ผ่าตัดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงมาครบ 20 วันแล้วนะคะ ตอนนี้ชั้นตาของเคเคก็ดูเท่ากันมากขึ้น แล้วก็หายบวมมากขึ้นมากๆเลยค่ะ เดี๋ยวเคเคจะหลับตา ลืมตาให้ดูนะคะ

สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาอัปเดตตากันนะคะ ตอนนี้ก็ครบ 1 เดือนแล้วนะคะ วันนี้เคเคมาให้คุณหมอตรวจตาดูนะคะ สำหรับการแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่ทำไปนะคะ ตอนนี้ตาเคเคก็ยุบบวมลงมากๆเลยค่ะ แล้วก็ชั้นตาสวยขึ้นมากๆค่ะ รู้สึกประทับใจในฝีมือคุณหมอมากๆเลยค่ะ สวยมากๆค่ะ

https://jarem.co.th/reviews-ptosis-surgery-10/

Jaremclinic
Tel : 02-641-4091 , 091-782-0606
LINE ID : @jaremclinic
FB Fanpage : Jaremclinic