ผู้เขียน หัวข้อ: 8 วิธีรักษาสิว ที่หมอผิวหนังแนะนำ ปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียง  (อ่าน 116 ครั้ง)

ออฟไลน์ bslclinicit

  • New member
  • *
  • กระทู้: 5
    • ดูรายละเอียด


ปัจจุบันนี้ในโลกของอินเตอร์เน็ตเราจะเห็นได้ว่า มีวิธีการกำจัดสิวอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสูตรจากผัก ผลไม้ ตามธรรมชาติ, ครีมรีวิวต่างๆ ตามท้องตลาดที่แพร่อยู่อย่างมากมาย ในบางคนทำตามแล้วก็ได้ผลดี แต่ในบางคนก็อาจจะเกิดอาการแพ้หนักกว่าเดิมก็มีเช่นกัน ก่อนที่จะกำจัดเจ้าสิวตัวร้ายให้ออกไปจากผิวหน้านั้น ควรที่จะทำความเข้าใจกับสาเหตุของการเกิดสิวก่อน เพราะจะทำให้เรารู้ถึงสาเหตุของสิวที่เกิดมานั้นเป็นอย่างไร และควรดูแลรักษามันได้อย่างไร เพื่อที่จะไม่ให้ผิวเกิดอันตรายในระยะยาว เพราะหากใบหน้าเกิดหลุมสิวแล้ว จะทำให้การรักษายากกว่าเดิม และไม่สามารถทำให้ผิวกลับมาเต็มหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์

โดยสาเหตุของการเกิดสิว มีอยู่ด้วยกัน 4 สาเหตุ ดังนี้ รูขุมขนอุดตัน, ต่อมไขมัน, แบคทีเรีย C.acnes และฮอร์โมนในร่างกาย หากเราทำความเข้าใจกับสาเหตุของการเกิดสิว ก็จะทำให้เข้าใขถึงกระบวนการรักษามากขึ้นนั้นเอง และสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bslclinic.co.th/acne-treatment/

บีเอสแอลคลินิกยังมีวิธีการรักษาให้สิวหายไปจากผิวหน้าได้ในระยะยาว เพราะเรามีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับผิวหนังมากกว่า 35 ปี ทำให้เข้าใจถึงสาเหตุ สภาพผิว วิธีการแก้ไขได้อย่างล้ำลึก ทำให้ผลการรักษาออกมาดีได้ภายใน 3 เดือน และหลังจบการรักษา สิวก็ไม่กลับมาขึ้นอีกในบริเวณที่ทำการรักษาไป

1. เคลียร์สิวอุดตัน



สิวอุดตันเป็นตัวการร้ายที่จะทำให้ผิวพังหากไม่ทำการเคลียร์ออกไปให้หมด เมื่อสิวอุดตันถูกกำจัดออกไปแล้วจะช่วยลดการอับเสบของสิวได้ เพราะหากเราปล่อยให้สิวอุดตันอยู่บนผิว และทำการรักษาแบบไม่ถูกวิธี เจ้าสิวตัวร้ายนี้จะพัฒนากลายมาเป็นสิวอักเสบได้เช่นกัน

2. เลเซอร์รักษาสิว



อย่างที่เคยกล่าวไว้เบื้องต้นว่า รูขุมขน และ ต่อมไขมัน เป็น 2 ใน 4 สาเหตุที่ทำให้เกิดสิว ตัวเลเซอร์ชนิดนี้จะเข้าไปทำงานกับต่อมไขมันโดยตรง ให้มีขนาดเล็กลง เพื่อไม่ให้เกิดการผลิตไขมันออกมามากเกินกว่าปกติ และยังช่วยกระชับรูขุมขน เพื่อลดการอุดตัน ที่สำคัญยังเป็นการกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทนเซลล์ผิวหนังเก่าที่ตายแล้ว ทำให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้นได้ในระยะยาว

3. ฉายแสงฆ่าเชื้อสิว



วิธีนี้จะตอบโจทย์ในสาเหตุที่ 3 คือแบคทีเรีย C.acnes โดยแสงเลเซอร์จะเข้าไปฆ่าตัวแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวออกไปจากผิวของเรา ทำให้สิวที่เป็นนั้นไม่เกิดการอักเสบขึ้น เพราะได้ทำลายแบคทีเรียไปแล้ว อีกทั้งยังช่วยลดความมันบนใบหน้า ให้มีความมันน้อยลง และหลังจากที่ทำไปยังช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้อีกด้วย

4. ยาและผลิตภัณฑ์ในการบำรุงผิว



โดยยาในที่นี้จะตอบโจทย์เรื่องของสาเตุที่ 4 นั้นก็คือ ฮอร์โมนในร่างกายที่เกิดการแปรปรวน คุณหมอจะสั่งจ่ายยาเท่าที่จำเป็นโดยดูจากภูมิหลังของคนไข้ว่า เป็นใคร สภาพผิวแบบไหน น้ำหนัก ส่วนสูงเท่าไหร่ เคยแพ้อะไรบ้าง เป็นต้น เพื่อจะนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ว่าคนไข้ควรจะได้รับประมาณยาที่พอเหมาะในสัดส่วนเท่าใหน เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย และไม่กระทบต่อการทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนไป

รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่ถูกคิดค้น และพัฒนาอยู่เสมอๆ เพื่อให้ตอบโจทย์กับผิวคนไข้มากที่สุด โดยจะไม่ใช่ สารสเตียรอยด์ในการรักษาสิวเพราะจะทำให้ผิวเกิดอันตรายภายหลังได้ แม้ในกลุ่มคนผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้บำรุงผิวเพื่อไม่ให้เกิดสิวได้นั้นเอง

5. เซลล์ซ่อมเซลล์



วิธีนี้จะเป็นการนำเซลล์ที่ดีที่สุดในร่างกายของตัวเราเองมาซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังเก่า ให้ฟื้นฟูขึ้น ช่วยลดการอักเสบของสิวและผิวหน้า ทำให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้น และยังช่วยฟื้นฟูหลุมสิวให้ตื้นขึ้นได้ เป็นวิธีการที่ไม่อันตรายเพราะใช้เซลล์ในร่างกายของเรานั้นเอง

6. เลเซอร์ลดรอยดำ



เหมาะสำหรับคนที่มีรอยดำบนผิวหน้า จากการแกะ บีบสิว จนทำให้เกิดรอยดำขึ้นมา โดยปกติรอยดำจะหายไปเองตามธรรมชาติแต่ต้องใช้เวลามากกว่า 6 เดือนขึ้นอยู่ที่สภาพผิว แต่ตัวเลเซอร์จะเข้าจะทำงานที่เม็ดสีเมลานินที่เข้มขึ้นผิดปกติให้จางลงได้ไวกว่าเดิม ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอกัน มีความกระจ่างใส และไม่ทำลายผิวรอบข้างให้บางลง

7. เลเซอร์ลดรอยแดง



รอยแดงเกิดการที่ผิวถูกทำลาย จนเลือดไปรวมตัวกันบริเวณนั้นๆ จนทำให้เกิดรอยแดงขึ้น เลเซอร์ชนิดนี้จะเข้าไปทำงานกับเส้นเลือดโดยเฉพาะ ช่วยให้เส้นเลือดเกิดการหดตัว ทำให้รอยแดงบริเวณที่ทำการรักษาจางลงไป เป็นการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว ให้ใบหน้า กระจ่างใสอมชมพูได้ด้วย

8. เลเซอร์รักษาหลุมสิว



เมื่อสิวเกิดการอักเสบและเราดูแลแบบผิดวิธี เจ้าสิวนั้นจะกลายมาเป็นหลุมสิว โดยหลุมสิวนั้นไม่สามารถตื้นขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องใช้เลเซอร์รักษาหลุมสิวช่วยกระตุ้น คือเลเซอร์จะเข้าไปตัดพังผืดที่ขึงตึงใต้ผิวที่เกิดหลุมสิวให้สลายไป ไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่นเลือดออก หรือรอยแผลเป็น เซลล์ผิวหนังจะค่อยๆสร้างขึ้นมาใหม่และเรียงตัวกับดีขึ้น ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น

เพราะการดูแลสิวนั้นไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ เพราะผิวหน้าของเรามีใบหน้าเดียวดังนั้น แนะนำให้เข้ามาปรึกษาหมอผิวหนังจะดีที่สุด เนื่องจากว่าหากเราทำการรักษาไม่ถูกจุด หรือไม่ตรงสาเหตุของการเกิดสิว ปัญหารอยดำ รอยแดง หรือแม้กระทั้งหลุมสิว จะตามมาบนผิวของคุณแน่นอน

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหาสิว
Line ID : @bslclinic **มี @ ข้างหน้า**
โทร 02-235-8858