สรุปสเปคของ
iPhone 15 ทั้ง 4 รุ่นว่ามีอะไรเพิ่มเข้ามาใหม่หลังจากมีข่าวหลุดออกมาเรื่อย ๆ ในช่วงที่ผ่านมา
พอร์ต USB-C 3.2ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด iPhone 15 Series ทุกรุ่นจะได้พอร์ต USB-C เป็นพอร์ตมาตรฐานจากโรงงานผลิต หลังจากในปีที่ผ่านมาทางคณะกรรมการยุโรปหรือ European Commission ได้บังคับให้พอร์ต USB-C ติดตั้งมากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท นั่นเท่ากับว่า iPhone 15 ทุกรุ่นจะต้องใช้พอร์ต USB-C จึงจะสามารถนำเข้าไปจำหน่ายในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรปได้ แต่พิเศษสุดตรงที่ USB-C ของไอโฟน 15 ที่จะติดตั้งเป็นเวอร์ชัน 3.2 เท่ากับว่าจะสามารถถ่ายโอนข้อมูลหรือมีความเร็วสูงสุด 20 Gbps (10Gbps*2) ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่รองรับเทคโนโลยี Multi-lane
ปุ่มกดใหม่สำหรับ
iPhone 15 Pro และ
iPhone 15 Pro Max จะถูกออกแบบปุ่ม Home หรือปุ่มสั่งการใหม่ ให้มีลักษณะคล้ายกับปุ่มบน Apple Watch Ultra ที่ผู้ใช้สามารถออกแบบปุ่มได้เอง รวมถึงสวิตช์เปิด/ปิดเสียงที่อยู่ด้านข้างจะไม่มี เป็นลักษณะของการสัมผัสพร้อมการสั่นเตือนว่ามีการปรับระดับเสียงขึ้น-ลง แทน เพื่อยกระดับการป้องกันน้ำและฝุ่นให้ดียิ่งขึ้น
เปลี่ยนผู้ผลิตหน้าจอใหม่ล่าสุดมีการเปิดเผยจากนักวิเคราะห์ชื่อดังอย่าง Ming-Chi Kuo ว่าใน iPhone 15 ใหม่ล่าสุดนี้จะได้ BOE ผู้ผลิตหน้าจอใหม่แทน SAMSUNG ซึ่ง BOE ในอดีตเคยเป็นผู้ผลิตหน้าจอ LCD (liquid crystal display) และปัจจุบันก็ได้ทำการพัฒนาและผลิตหน้าจอ OLED (organic light emitting diode) ที่มีความสว่างและความคมชัดสูงกว่า โดยหน้าจอ OLED ของ BOE ได้รับความนิยมอย่างมากในอุตสาหกรรมมือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้หน้าจอ OLED ในปัจจุบัน
กล้องหลักใหม่ 48MP ทุกรุ่นมีการคาดการณ์ว่าใน iPhone 15 Series จะกำหนดให้กล้องหลัก กล้องหลัง มีความละเอียด 48 MP ทุกรุ่น หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงมาแล้วในไอโฟน 14 โปร เพื่อยกระดับให้กับรุ่นล่างด้วย ในส่วนของตัวท็อปอย่าง iPhone 15 Pro Max จะได้ดิจิทัลซูม 6 เท่า เพิ่มเข้ามา เพื่อการซูมระยะไกลให้มากขึ้น
ชิปประมวลผลใหม่ A17 Bionicพระเอกของงานนี้คงหนีไม่พ้นชิปประมวลผลรุ่นใหม่ A17 Bionic จาก TSMC ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ระดับ 3 นาโนเมตรที่ยากจะหาใครทัดเทียม แต่ชิปดังกล่าวจะถูกบรรจุลงใน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max เหมือนในรุ่น iPhone 14 Pro ก่อนหน้า ในขณะที่ iPhone 15 Plus หรืออาจจะเป็น
iPhone 15 Max ตามข่าวลือและ iPhone 15 สแตนดาร์ดจะใช้ชิปประมวลผล A16 Bionic ที่อยู่ในรุ่น iPhone 14 pro เพื่อรองรับปฏิบัติการ iOS17
สีสันและราคาใหม่ในรุ่นคลาสสิกอย่าง iPhone 15 Pro และ Pro Max อาจมีการเปลี่ยนแปลงสีสันไม่มากนัก อาจยืนพื้นที่สีเดิมที่มีความคลาสสิกอยู่ในตัว แต่อาจจะเปลี่ยนในส่วนของเฉดสีให้ดูเข้มหรือบางลง ในส่วนของรุ่น Plus และ สแตนดาร์ด อาจเพิ่มสีสันที่ดูสดใสมากยิ่งขึ้น อาทิ สีเขียว เหลืองและชมพู โดยเฉดสีอาจเลือกใช้โทนสีอ่อนเพื่อความอ่อนหวานและสดใสมากยิ่งขึ้น
สำหรับราคา iPhone 15 Series คาดว่าจะมีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ยกเว้นในรุ่น Pro ขึ้นไป จะมีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะทาง Apple ต้องการที่จะยกระดับและแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่ารุ่น Pro และรุ่นสแตนดาร์ดมากขึ้น โดยคาดว่าในแต่ละรุ่นน่าจะมีราคาเริ่มต้นดังนี้
iPhone15 128GB คาดว่าราคาเริ่มต้นประมาณ $899
iPhone15 Plus 128GB คาดว่าราคาเริ่มต้นประมาณ $999
iPhone15 Pro 128GB คาดว่าราคาเริ่มต้นประมาณ $1099
iPhone 15 Pro Max 128GB คาดว่าราคาเริ่มต้นประมาณ $1199
ซึ่งราคาดังกล่าวเป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น คงต้องรอทาง Apple ออกมายืนยันอีกครั้งในวันเปิดตัวช่วงเดือนกันยายนนี้ พร้อมกับลุ้นข่าวลือเกี่ยวกับสเปกที่หลุดออกมาจะเป็นจริงมากน้อยเพียงใด ใครที่เป็นสาวก iPhone ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
