ผู้เขียน หัวข้อ: เสริมสุขภาพติดเชื้อ HIV ด้วยผลิตภัณฑ์ 4life transferfactor  (อ่าน 1319 ครั้ง)

ออฟไลน์ apple4lifeth

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 360
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
การอ่านค่า CD4

 
CD4 คือ
     CD4 cells ถูกเรียกว่า T-cells หรือ T-helper cells เป็น cell เม็ดเลือดขาวซึ่งจัดระบบภูมิต้านทานของร่างกายต่อการติดเชื้อ แบคทีเรีย เชื้อรา และ ไวรัส
 
วิธีการนับปริมาณ CD4 ในกลุ่มคนไม่ติดเชื้อ HIV
 
ระดับปกติของ CD4 ในคนที่ไม่ติดเชื้อ HIV จะอยู่ระหว่าง 400 - 1600 ต่อ เลือด 1 ลบ.มม.
CD 4 ของผู้หญิงที่ไม่ติดเชื้อ HIV นั้นจะมีแนวโน้นมที่สูงกว่าเล็กน้อย คือ 500 - 1600.
ถึงแม้ว่าถ้าคุณไม่มีเชื้อ HIV
 
      มีหลายปัจจัยที่มีผลต่อปริมาณ CD4 ดังนี้
1. ผู้หญิงมี CD4 สูงกว่าผู้ชาย ประมาณ 100
2. CD4 ของผู้หญิงจะขึ้นและลงในช่วงที่มีประจำเดือน
3.ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดจะทำให้ CD4 ลดลงได้
4. คนที่สูบบุหรี่จะมีแนวโน้มที่มี CD4 สูงกว่าปกติ ประมาณ 140
5. CD4 จะลดระดับลงในขณะที่ร่างกายพักผ่อน และลดลงได้มากถึง 40%
6.หลับสนิทจะมี CD4 ที่ต่ำในช่วงเช้า แต่จะมี CD4 ที่สูงขึ้นในช่วงบ่าย
 
ปัจจัยที่กล่าวมาไม่ทำให้เกิดความแตกต่างในการต่อต่านเชื้อโรคของระบบภูมิต้านทาน เนื่องจาก
CD4 ส่วนน้อยที่อยู่ในกระแสเลือด ส่วนที่เหลืออยู่ใน lymph nodes และ เนื้อเยื่อ และ การขึ้นลงที่กล่าวมาข้างบนนั้นอาจจะเกิดจากการย้ายตัวของ CD4 ระหว่าง เลือด และ เนื้อเยื่อ
 
    ปริมาณ CD4 ในกลุ่มคนที่มีเชื้อ HIV
หลังจากที่ติดเชื้อ HIV ระดับ CD4 ของผู้ติดเชื้อมีโอกาสลดลง ก่อนที่เริ่มคงที่ ที่ระดับ 500-600 มีข้อสังเกตว่าคนที่ CD4 ลดลงอย่างมากในช่วงติดเชื้อใหม่และไม่สามารถรักษาระดับที่คงที่ได้ มีแนวโน้มที่จะมีอาการของโรคเร็วกว่าปกติ ถึงแม้ว่าร่างกายคุณจะปกติ และไม่มีอาการของ HIV แต่ CD4 นับล้านๆ ได้ติดเชื้อ HIV และ ถูกทำลาย ลงทุกวัน และ มีอีกนับล้านๆ cells เช่นกันที่ถูกสร้างใหม่เพื่อทดแทน
 
อย่าง ไรก็ตาม เป็นที่คาดกันว่า คนที่เป็น HIV แต่ยังไม่ได้รับการรักษา ระดับ CD4 จะลดลงประมาณ 45 เซลล์ในทุกๆ 6 เดือน โดยเฉพาะคนที่ยัง CD4 ที่สูงอาจจะมีแนวโน้มที่ CD4 จะลดลงในระดับที่มากกว่า
 
ระดับ CD4 ระหว่าง 200-500 แสดงให้เห็นว่าระบบภูมิต้านทานของร่างกายได้ถูกทำลายแล้ว
 
การ ลดลงอย่างมากของ CD4 เป็นสัญญาณของอาการที่จะเกิดขึ้นก่อน 1 ปี ก่อน กลายเป็นป่วยโรคเอดส์ และ แนะนำให้ตรวจ CD4 อย่างสม่ำเสมอเมื่อ CD4 ต่ำกว่า 350
 
ระดับ CD4 เป็นแนวทางในการประกอบการตัดสินใจเพื่อป้องกันโรคบางอย่างที่เกี่ยวเนื่อง กับ HIV ตัวอย่างเช่น ระดับ CD4 น้อยกว่า 200 ควรจะป้องกันอาการโรคปอดอักเสบ พีซีพี
 
ระดับ CD4 อาจจะผันผวนได้ ดังนั้นไม่ควรให้ความสำคัญกับการตรวจเพียงครั้งใดครั้งหนึ่ง แต่ควรดูแนวโน้มของ CD4 ในการตรวจในช่วงที่เพิ่งผ่านมามากกว่า
 
ถ้าระดับ CD4 ของคุณยังสูงและยังไม่ได้รับยาต้าน คุณอาจจะเพียงแค่ตรวจซ้ำทุก 2-3 เดือน ก็เพียงพอ
 
อย่าง ไรก็ตาม ถ้าระดับ CD4 ลดลงอย่างรวดเร็ว และ คุณรู้สึกไม่สบาย และ คุณอยู่ในโครงการทดลองทางการแพทย์หรือรับยาต้านแล้ว คุณควรจะตรวจ CD4 ให้บ่อยขึ้น
 
        การอ่านค่า CD4 ในแบบเปอร์เซ็นต์
บางครั้งแพทย์จะทำการนับ CD4 แบบเปอร์เซ็นต์ คือ มีจำนวนกี่เปอร์เซ็นต์จากจำนวนเม็ดเลือดขาวทั้งหมด โดยทั่วไปสำหรับคนที่มีภูมิต้านทานปกติ จะมี CD4 อยู่ที่ 40% แต่ถ้า อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 14% จะบ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อการป่วยที่เกี่ยวข้องกับเอดส์ เทียบเท่ากับ CD4 ระดับ 200
 
         ระดับ CD4 และการรักษา HIV
ระดับ CD4 จะช่วยกำหนดการเริ่มรับยาต้านไวรัส HIV และเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าการรักษาได้ผลหรือไม่
 
เมื่อระดับ CD4 ของคุณต่ำกว่า 350 แพทย์จะเริ่มแนะนำให้คุณรับยาต้านไวรัส ซึ่งในระดับนี้ยังขึ้นอยู่กับคุณว่าต้องการรับยาต้านหรือไม่
 
แต่ ถ้า CD4 อยู่ที่ 200-250 คุณควรจะต้องรับยาต้านไวรัส เนื่องจากระดับ CD4 บ่งชี้ว่าคุณมีความเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ต่อการเป็นโรคที่เกี่ยวกับ เอดส์
 
แต่ถ้าคุณรอจนกระทั้ง CD4 อยู่ในระดับต่ำกว่า 200 คุณมีแนวโน้มที่ตอบสนองต่อยาต้านไวรัสได้น้อย ในขณะที่คนที่มี CD4 มากว่า 350 จะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆเลยถ้าบุคคลนั้นรับยาต้านไวรัส
 
เมื่อคุณ เริ่มรับยาต้านแล้ว ระดับ CD4 จะเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ แต่ถ้าระดับ CD4 ยังคงลดลงในการตรวจหลายๆครั้ง คุณควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการผิดปกติในการรักษา
 
อันนี้เป็นค่ามาตรฐานของห้องแลป รพ. บำราศนราดูร
ค่า CD4 ของคนปกติ = 529 - 1,351
ค่า CD4% ปกติ = 29 - 41%
 
 
การตรวจ CD4 ในหลักสูตรเทคนิคการแพทย์
Absolute CD4 = (%CD4 * WBC * %Lymphocyte ) / 10000
ค่าปกติในหญิงช่วงค่าประมาณ 410-1264 ในคนธรรมดาไม่เป็นH
ค่าปกติในชายช่วงค่าประมาณ 470-1404 ในคนธรรมดาไม่เป็นH
 
ฉะนั้นค่าจะไม่เหมือนกัน เพราะยังขึ้นกับ เม็ดเลือดขาว มีกี่เม็ดในเลือด กับ % Lymp ก็ไม่เท่ากัน
บางคน มี เม็ดเลือดขาวเยอะ 10000 บางคนน้อยมาก 3000
 
ค่าปกติเม็ดเลือดขาว หรือ WBC คือ ประมาณ 5000-10000 cells/cu.mm.
ส่วนค่า % Lymp จะไม่เหมือนกัน บางคน สูง บางคนต่ำ
ค่าปกติ ของ % Lymp อยู่ในช่วงประมาณ 19-48 %
ฉะนั้น มันต้องดู ค่าทั้ง 3 อย่าง เเละนำไปใส่สมการสูตรคำนวณออกมา เพราะฉะนั้น ค่าที่เป็น Absolute CD4 นั่นเเหล่ะเป็นค่าที่นำไปเป็นเกณฑ์การรับยาต้านไวรัส ถ้าต่ำกว่า 200 ลงมา ก็ทานยาได้ไปหาหมอขอยาต้านได้เลย
ถ้ายังสูง มากกว่า 200 ก็อย่าเพิ่งกินยาต้าน ให้รักษาตามอาการเเทรกซ้อนด้วยยาเฉพาะโรคอื่นๆไปก่อน น่ะครับ
 
ทีนี้เรามาดู ค่าอื่นๆ ในการตรวจ CBC กันบ้าง
+ Neutrophils (NEUT) ค่าปกติ 40 - 74 % : จะพบสูงขึ้นในภาวะติดเชื้อจำพวกแบคทีเรีย
 
+ Lymphocytes (LYMP) ค่าปกติ 19 - 48 %: จะพบสูงขึ้นในภาวะที่มีการติดเชื้อไวรัสอย่างเฉียบพลัน หรือภาวะที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียที่เรื้อรัง
 
+ Monocytes (MONO) ค่าปกติ 3 - 9 %: จะพบสูงขึ้นในผู้ที่อยู่ในระยะฟื้นจากการติดเชื้อทั่วไป
 
+ Eosinophils (EOS) ค่าปกติ 0 - 9 %: จะพบสูงขึ้นในภาวะที่มีภูมิแพ้ (Allergy), ภาวะที่มีพยาธิในร่างกาย
 
+ Basophils : ค่าปกติ 0 - 2 % จะค่าสูงในพวกเป็นภูมิแพ้ต่างๆครับ
 
+ ค่าPlatelet Count (PLT) คือการนับจำนวนของเกร็ดเลือดต่อ mL ในเลือด ค่าปกติ 130,000 - 400,000 cells /m
(เกร็ด เลือดมีความจำเป็นที่ทำให้เลือดแข็งตัว) ถ้าต่ำกว่า 100,000/mL ถือว่าน้อยไปอาจทำให้เลือดหยุดยาก ตรงกันข้ามถ้ามากไป คือสูงกว่า 400,000/mL จะทำให้เลือด แข็งตัวได้ง่ายขึ้น และอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดการอุดตันในเส้นเลือด


 เสริมสุขภาพติดเชื้อ HIV ด้วยผลิตภัณฑ์ 4life transferfactor




http://www.4lifethai-varietyshop.com

 ติดต่อสอบถาม Tel.081-8026910 , 085-1635217  ปรียาภา ศิริเลิศ      ทุกวัน    เวลา 6.00น.-24.00น. หรือ     

Email : [email protected] ,     Line Id :  pree_siri