ผู้เขียน หัวข้อ: ครีมหอยทาก ฟลิ้งสเนล 790 บาท  (อ่าน 599 ครั้ง)

ออฟไลน์ lioninter79

  • LCD TV member
  • **
  • กระทู้: 90
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
ครีมหอยทาก ฟลิ้งสเนล 790 บาท
« เมื่อ: ตุลาคม 01, 2014, 08:59:05 am »
ครีมหอยทาก ฟลิ้งสเนล
http://www.fingsnail.com
http://www.fingsnail.com/product_detail.php


หอยทาก แค่ได้ยินชื่อ ก็รู้นึกถึงภาพตัวเหนียวๆ เมือกลื่นๆ กระดึบไป กระดึบมา บนใบไหม้อ่อนแล้วอาจจะรู้สึกขนลุกนิด ๆ ยิ่งถ้านึกถึงเมือกหอยทากแล้วล่ะก็หนักเข้าไปอีก เพราะออกแนวหยะแหยงหน่อยๆ  แต่ความอยากสวยไม่เคยปราณีใคร แม้แต่สัตว์ตัวน้อยๆอย่างเจ้าหอยทากก็ไม่เว้น ยังอุตส่าห์ไปหาเจอจนได้ เพราะว่าตอนนี้สำหรับ ครีมหอยทาก มันดังมากๆ กลายเป็นครีมที่กำลังได้รับการพูดถึงมากในหมู่สาว ๆ หนุ่มๆ ที่รักสวยรักงาม ไม่ว่าจะเป็น ครีมหอยทาก ครีมเมือกหอยทาก สบู่หอยทาก    เซรั่มหอยทาก เจลหอยทาก   ฯลฯ

หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วไอ้เจ้า ครีมหอยทาก ที่ว่าเนี่ย จากหอยทาก สัตว์ที่เป็นศัตรูพืช มันได้กลายร่างมาเป็นครีมบำรุงผิวได้อย่างไร แล้วทำไมต้องครีมหอยทาก... หอยเชลล์ หอยเชอรี่ได้ไหม (ชื่อเพราะกว่ากันเยอะ) ที่นี่มีคำตอบ
ก่อนอื่นมารู้จักสรรพคุณครีมหอยทากกันก่อน ครีมหอยทาก ก็คือ ครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากเมือกหอยทาก (Snail mucus) ว่ากันว่าสามารถแก้ไขปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ จุดด่างดำ และลดเลือนริ้วรอย รอยแผลเป็นต่าง ๆ บนใบหน้าให้จางลง สำหรับที่มาที่ไป ของการนำเอาเมือกหอยทากมาเป็นส่วนผสมสำคัญนั้นในครีมนั้น มาจากการวิจัยและค้นพบว่า
เมื่อหอยทากเจอกับสภาวะที่ผิวของมันเสี่ยงต่อการเกิดอัตราย เช่น เปลือกหอยทากแตก หรือได้รับความเสียหาย หอยทากจะผลิตน้ำเมือกของตัวเองออกมา เพื่อซ่อมแซมเปลือกกระดองให้กลับมาแข็งแรง เพื่อปกป้องผิวของตัวเองได้เหมือนเดิม และไอ้เจ้าเมือกที่หอยทากมันผลิตออกมานี่แหละ พบว่าเป็นเมือกที่จะเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านการอักเสบ, สารปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกัน, เป็ปไทด์, เอ็นไซม์และสารติดต่อกับเซลล์ผิว ซึ่งส่วนผสมดังกล่าวเป็นองค์ประกอบหลักในครีมหอยทาก


สารออกฤทธิ์หลักในเมือกหอยทาก
ส่วนผสมหลักที่มีอยู่ในเมือกหอยทากคือ Allantoin, Gluconic Acid, Collagen และ Elastin
• Allantoin เป็นสารต้านการอักเสบและระคายเคืองต่อผิว และยังช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในเซลล์ผิวทำให้ผิวชุ่มชื้นฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และลดริ้วรอยได้ดีพร้อมเร่งการผลิตเซลล์ผิวใหม่ อีกทั้งช่วยควบคุมความมัน
• Gluconic acid ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และควบคุมความมัน
• Collagen ช่วยให้ผิวของเรามีความชุ่มชื่น เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล กระชับ เนียนเด้งโดยจะอยู่คู่กับ Elastin ที่จะช่วยในเรื่องของความยืดหยุ่นของผิว
• เมือกหอยทากจะอยู่ควบคู่กับ Chondroitin sulfate ซึ่งมีคุณสมบัติในการสร้างและเพิ่มพลังให้แก่ผิว
"คาเวียร์" อานุภาพล้ำ เพื่อสาวผิวสวย

          หากพูดถึงไข่ปลาคาเวียร์...หลายคนคงนึกถึงเมนูคู่ปากของคนชนชั้นสูง หรืออาหารเลิศหรูลอยฟ้าสำหรับผู้มีรสนิยม แต่นอกเหนือจากความพิเศษในเมนูสุดอร่อยนั้น "คาเวียร์" ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยสารอาหารทรงคุณค่าทั้งทางโภชนาการ และอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวพรรณของมนุษย์

จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมคนในราชวงศ์ชั้นสูงที่นิยมการรับประทาน "คาเวียร์" เป็นอาหารจะมีผิวพรรณที่ผุดผ่องสดใส  ใบหน้าเต่งตึงไม่หมองคล้ำ เพราะในไข่ปลาคาเวียร์จะอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งโปรตีน กรดไขมัน น้ำ วิตามินอี บี1 บี2 บี6 และอะมิโนแอซิด ที่ช่วยในการลดเลือนริ้วรอยอย่างได้ผล ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามหลายแบรนด์ จึงนิยมการนำ "คาเวียร์" มาสกัดเป็นอาหารผิว ทั้งในรูปแบบครีมบำรุง โลชั่น แม้กระทั่ง[^_^]ต่าง ๆ นานา

 คุณประโยชน์หลัก ๆ ของไข่ปลาคาเวียร์ที่มีต่อผิวพรรณของสาว ๆ นั้น เริ่มต้นจากการปรับสภาพผิวให้มีสุขภาพดีขึ้น ช่วยให้ผิวดูอ่อนวัย ลดเลือนริ้วรอย ซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวให้ความชุ่มชื่นอย่างล้ำลึกแก่ผิว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ผิว สามารถเผาผลาญและขจัดของเสียได้ดียิ่งขึ้น รักษาความชุ่มชื้น ต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระในผิว เพื่อช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่นและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง แลดูอ่อนเยาว์ตลอดเวลา
   โปรตีน ในไข่ปลาคาเวียร์จะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญของเซลล์และให้ความชุ่มชื้นกับผิว

  เกลือแร่ ในไข่ปลาคาเวียร์ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง แข็งแรง ดูสุขภาพดี

 กรดไขมัน กรดอะมิโนแอซิด ในไข่ปลาคาเวียร์เป็นเกราะในการปกป้องผิวจากภาวะภายนอกที่อันตรายกับผิว

 วิตามินเอและดี ในไข่ปลาคาเวียร์ช่วยปกป้องผิวให้ผิวสุขภาพดี รวมถึงให้ออกซิเจนแก่ชั้นผิว ช่วยให้ผิวคืนความสดชื่น มีชีวิตชีวา ดูอ่อนเยาว์สดใส

สารสกัดจากไข่ปลาคาเวียร์ จึงตอบโจทย์ความงามสำหรับสาวผิวสวยได้อย่างตรงจุด หากใครจะลองหาซื้อมารับประทานหรือประทินผิว ก็ตามแต่งบประมาณในกระเป๋าจะเอื้ออำนวย


หอมแดงสกัด 100% "หอมแดง" มัก ถูกใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นลาบ น้ำตก หรือเป็นผักกินแกล้มกับอาหารเช่นข้าวซอย หรือเป็นส่วนประกอบในน้ำจิ้มอาจาด ซึ่งส่วนประกอบเล็กๆ อย่างหอมแดงนี้ก็ให้คุณประโยชน์กับคนกินมากมายเช่นกัน

ในหอมแดงหัวเล็กๆ นี้ มีประโยชน์มากกว่าลูกพี่อย่างหอมหัวใหญ่เสียอีก โดยในหอมแดงสดจะมีน้ำมันหอมระเหยเป็นส่วนประกอบ อีกทั้งยังมี
 **การนำไปใช้ นอกจากใช้ผสมกับเครื่องสำอางแล้ว ยังสามารถใช้ทาบนผิวหน้าเพียวๆ ร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์ตัวอื่นได้ เช่น การรักษาสิว หลังจากล้างหน้าสะอาดแล้วเช็ดหน้าให้แห้ง อาจจะใช้หอมแดงสกัด 100% ชุบสำลีเช็ดบนใบหน้า แล้วแต้มเจลแต้มสิวลงบนหัวสิวอีกครั้ง จะทำให้การจัดการปัญหาสิวเป็นไปได้ดียิ่งขึ้นค่ะ


หอมแดงสกัด 100%

"หอมแดง" มัก ถูกใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นลาบ น้ำตก หรือเป็นผักกินแกล้มกับอาหารเช่นข้าวซอย หรือเป็นส่วนประกอบในน้ำจิ้มอาจาด ซึ่งส่วนประกอบเล็กๆ อย่างหอมแดงนี้ก็ให้คุณประโยชน์กับคนกินมากมายเช่นกัน
สารฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และหากกินเป็นประจำก็จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดไขมันในเส้นเลือดที่เป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ

นอก จากนั้นในหอมแดงยังมีธาตุฟอสฟอรัสปริมาณสูง ช่วยให้มีความจำดี อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี แถมยังช่วยลดจุดด่างดำบนใบหน้าสาวๆ ได้อีกด้วย ช่วยรักษาสิว ลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ทำให้สิวยุบแห้งเร็ว ลดรอยดำ รอยแดงจากสิว ได้เป็นอย่างดี

 

What is jojoba oil? โจโจบาออยล์คืออะไร

Jojoba (อ่านออกเสียงว่า โฮ-โฮ่-บา) Jojoba คือ สารสกัดจากเมล็ดของต้น Jojoba หรือ Simmondsia chinenis สิ่งที่น่าสนใจก็คือไม่ใช่ "น้ำมัน" เสียทีเดียว แต่คือ wax ester ( ester คือ สารประกอบอินทรีย์เกิดจากปฏิกิริยาของกรดกับแอลกอฮอล์)  ในบรรดาสารสกัดจากธรรมชาติทั้งหมด wax ester ชนิดนี้มีลักษณะคล้ายน้ำมันของผิวมนุษย์เราที่สุด (sebum) ในทางทฤษฎีการทา jojoba oil ลงบนผิวจะสามารถ "หลอก" ผิวของเราให้คิดว่ามีน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวเพียงพอแล้ว จึงส่งผลผิวสร้างสมดุลในการผลิตน้ำมัน เกริ่นกันมาเนิ่นนาน สรุปง่ายๆก็คือว่า jojoba oil จะไม่ก่อให้เกิดสิวดังนั้นเราสามารถนำมาใช้ได้อย่างไม่ต้องกลัว



  Jojoba oil มีสารคุณสมบัติเป็น Collagen ชนิดเดียวกับผิว ช่วยขจัดน้ำมันบนใบหน้าและสิวเสี้ยน สามารถนำไปล้างเครื่องสำอางบนใบหน้าได้ดีเยี่ยม แัละยังช่วยลดรอยแผลเป็นให้จางลงได้ ใช้บำรุงผิว ล้างเครื่องสำอาง และมีสารกันแดด spf = 4

Benefits of jojoba oil  ประโยชน์ของ jojoba

  1. ให้ความชุ่มชื้นยาวนานตลอดวัน - jojoba oil ไม่ระเหยหรือละลายหายไปเหมือนกับมอยซ์เจอไรเซอร์บางตัวที่มีน้ำเป็นส่วน ประกอบพื้นฐาน

  2. ในทางทฤษฎี  เนื่องจาก jojoba oil มีลักษณะคล้ายน้ำมันของผิวหนังมนุษย์ จึงสามารถ "หลอก" ผิวของเราให้คิดว่ามีน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวเพียงพอแล้ว จึงส่งผลผิวสร้างสมดุลในการผลิตน้ำมัน

  3. มีความเสถียรสูง -  jojoba oil จะไม่เน่าเสียหรือสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ (antioxidant) แม้จะเก็บไว้เป็นระยะเวลานาน

  4. กระจายตัวและซึมซับดี


ว่านหางจระเข้

 1.บำรุงเส้นผมให้เงางามและช่วยขจัดรังแค ตัดใบสดมาทาลงบนเส้นผม หรือถ้าไม่สะดวกให้นำวุ้นว่านหางจระเข้ไปปั่นให้ละเอียดจะได้ใช้ง่ายขึ้น จากนั้นนำมาชโลมผมให้ทั่วเพื่อให้ผมสลวยเงางาม หากนวดบริเวณรากผมจะช่วยให้รากผมเย็นลง ช่วยบำรุงหนังศีรษะ รักษาแผลบนศีรษะ และขจัดรังแคได้ด้วย

 2.รักษาสิวและรอยด่างดำ ประโยชน์ข้อนี้คนที่อยากหน้าใสตั้งใจอ่านให้ดี เพราะว่านหางจระเข้มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการติดเชื้อ และมีกรดอ่อน ๆ ช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ นำเนื้อวุ้นที่ล้างสะอาดทาบริเวณใบหน้าวันละ 2 ครั้ง ใช้เวลาสัก 1-2 เดือน จะเริ่มเห็นผลว่ารอยต่าง ๆ ดูจางลง

 3.บำรุงผิวกาย เพียงแค่นำว่านหางจระเข้สด มาปอกเปลือกและล้างให้สะอาด จากนั้นหั่นเป็นชิ้นนำไปใส่ไว้ในถุงผ้ากอซขนาดเล็ก แล้วนำไปหย่อนไว้ในอ่างอาบน้ำ หรือถ้าไม่มีถุงผ้ากอซ ให้นำวุ้นไปแช่ไว้ในอ่างอาบน้ำเลยก็ได้เหมือนกัน โดยระหว่างอาบน้ำให้ใช้เนื้อวุ้นถูกตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เน้นที่รอยแห้งกร้านอย่างข้อศอก หัวเข่า ส้นเท้า เป็นต้น จะช่วยให้ผิวพรรณเนียนนุ่ม และเต่งตึงขึ้น

 4. เติมน้ำให้ผิว ความชุ่มชื้นในผิวหน้าและผิวกาย มักจะค่อย ๆ ลดลงตามวัย และไลฟ์สไตล์ของคุณ ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักใช้ชีวิตกันอยู่ในห้องแอร์จนผิวขาดความชุ่มชื้น หากนำเนื้อวุ้นจากว่านหางจระเข้มาพอกหน้าก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยเติมน้ำให้ผิวของคุณได้ โดยล้างวุ้นให้สะอาด แล้วฝานบาง ๆ มาโปะให้ทั่วหน้า หลับตาพริ้มรอสัก 15 นาที ก็ไปล้างหน้าให้สะอาดได้ ผิวของคุณจะรู้สึกชุ่มชื้น เต่งตึงขึ้น หากจะใช้กับผิวกายให้ลองนำเนื้อไปปั่นหยาบ ๆ แล้วนำมาพอกตัว ก็ใช้ง่ายดีเหมือนกัน


บริษัท ลีโอคอสเมส (ประเทศไทย) จำกัด
เลขที่ 42/3 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กรุงเทพ 10700
โทร.02-8800182, 02-8800183 แฟกซ์ 02-8800184